ช่วยรักษา “ยานอวกาศ” โลกของเราให้อยู่ในฐานะที่ทรงพลัง

ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ มหาวิทยาลัยโคลัมเบียนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา 3 พฤศจิกายน 2532 (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ) วีดิทัศน์#102A

โลกของเราเป็น ‘ยานอวกาศ’ ที่งดงามมาก เราสามารถพูดได้ว่าเป็น ‘ยานอวกาศ’ ที่บรรทุกสรรพสัตว์มากมายอยู่ในกลางอากาศ และหมุนเป็นวงกลมไปรอบ ๆ โลกของเราให้ความสบายและสนุกมากมายแก่เรา ให้ทรัพย์สมบัตินับไม่ถ้วนแก่เรา และค้ำจุนชีวิตของเราด้วยวิธีการและหนทางมากมาย แต่เราก็มีหน้าที่เล็ก ๆ ต่อโลก ที่เป็นเสมือนแม่ของเรา เพื่อให้คงอยู่ในฐานะที่ทรงพลังเช่นนี้ เพื่อว่าท่านจะได้สามารถช่วยเราได้
 

เพื่อเป็นการทำให้สังคมกลับคืนสู่สภาพที่น่ายินดี เราควรรักษาศีล และมีความเคารพซึ่งกันและกัน และมีความเข้าใจกันด้วย วิธีการที่ผู้คนใช้ชีวิตของเขานั้น เป็นอันตรายต่อตนเองและต่อผู้อื่น ทั้งที่มองเห็นได้และมองไม่เห็น ถ้าเราไม่เชื่อการมีตัวตนที่มองไม่เห็นของสรรพสัตว์อื่นๆ  อย่างน้อยที่สุด เราก็เชื่อในการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์ของเราเอง ของมนุษยชาติ และสัตว์ทั้งหลายที่เป็นพลเมืองของโลก เมื่อไม่นานมานี้ มีแฟชั่นแบบหนึ่งที่คนกำลังกลายเป็นนักมังสวิรัติ ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดี เพราะตามที่เราทราบมา ทุกอย่างนั้นมีพลังงาน การกระทำทุกการกระทำถูกบันทึกเอาไว้ ไม่มีอะไรที่สูญหายไปตามที่เราสามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ ดังนั้นถ้าเราได้สร้างสภาพรุนแรงบางอย่าง บรรยากาศที่รุนแรงนั้น ก็จะอยู่รอบๆตัวเราหรือโลกของเรา และสิ่งนั้นจะทำให้เกิดภัยพิบัติ เหตุนี้เราจึงมักสงสัยอยู่เสมอว่า “ทำไมจึงมีสงครามมากมาย?” “ทำไมแผ่นดินไหวมากมาย ภัยพิบัติมากมายจึงเกิดขึ้นกับโลกของเรา?” ไม่มีอะไรที่มาจากไม่มีอะไร ไบเบิ้ลได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนมาก: หว่านพืชอย่างไร ก็ได้ผลอย่างนั้น
 

ทุกอย่างที่เราทำมีผลกระทบต่อทุกคนในโลกนี้และโลกหน้า ทุกศาสนาได้กล่าวกับเราว่าทุกสิ่งทุกอย่าง สรรพสัตว์ทั้งหมด โดยแก่นแท้แล้วเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็เหมือนกับที่ร่างกายของเรา มีส่วนต่าง ๆ มากมาย ถ้ามือของเราเจ็บ มันก็จะมีผลกระทบต่อร่างกายทั้งหมดของเราด้วย เพียงเพราะว่า ร่างของจักรวาลนั้นใหญ่มาก และพวกเราที่เป็นสรรพสัตว์ในร่างที่ใหญ่โตนี้ ไม่สามารถเข้าใจได้ ไม่สามารถเห็นร่างจักรวาลทั้งร่างได้ ดังนั้น เราจึงอาจไม่เชื่อว่า การกระทำของเราเกี่ยวข้องกับสรรพสัตว์อื่น ๆ หากเราได้พัฒนาตาสวรรค์ ตาปัญญา เราจะเห็นสิ่งนี้ได้ด้วยตัวเราเองว่า เราติดต่อเชื่อมโยงจริง ๆ กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย แล้วเราก็จะมีระมัดระวังเป็นอย่างมากในสิ่งที่เรากระทำ พระเยซูคริสต์และพระพุทธเจ้าได้พัฒนาตาปัญญาชนิดนี้แล้ว ดังนั้นพวกท่านจึงทราบว่า กฎของจักรวาลคืออะไร ทราบว่าจะทำอะไรเพื่อให้โลกของเรางดงาม อีกทั้งทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น และเหมาะกับรสนิยมของเรามากขึ้น ดังนั้นพวกท่านจึงได้สร้างกฎจากสวรรค์เกี่ยวกับพฤติกรรมของเรา และทิศทางที่เราควรไปในการดำรงชีพประจำวันของเรา กฎเหล่านี้มีค่ามาก ซึ่งก็คือสิ่งที่เราเรียกว่า ศีลหรือบัญญัติของพระเจ้า
 

ถ้าเรารักษาศีล เราก็จะดีต่อเพื่อนบ้านของเรา เราจะรักศัตรูของเรา และอื่น ๆแล้วโลกก็จะมีสันติภาพ เป็นสถานที่ที่งดงาม ที่จะอยู่อาศัย และจะยั่งยืนมากขึ้น ดังนั้นถ้าโลกของเรามีความสงบสุข มันก็จะมีผลกระทบต่อชีวิตของเราด้วย และเราจะรู้สึกสงบสุขมากเช่นกัน ถ้าเราอาศัยอยู่ในบ้าน และบ้านเสียหาย หรืออยู่ในสภาพไม่ดี สภาพของเราและความสบายของเราก็จะได้รับผลกระทบ ในทำนองเดียวกัน ถ้าเราอาศัยอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงและความเดือดร้อน เราก็จะไม่มีความสงบสุข ดังนั้น การช่วยโลกก็คือ การช่วยตัวเราเอง