เรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ต่อไปนี้
แสดงให้เห็นถึงว่าอะไรก็ตามสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยความเมตตาของท่านอาจารย์
ในบ่ายของวันที่
21 กุมภาพันธ์ 2548
ผมกำลังจะเลิกงานอยู่พอดีเมื่อท่านธรรมทูตกวนอิมซึ่งผมรู้จักได้โทรถึงผม
ขอให้ผมไปยังศูนย์บูดาเปสท์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อรับท่าน
และพาท่านไปยังศูนย์ที่อยู่ในชนบทของเรา
ซึ่งถูกใช้สำหรับฌานในฤดูร้อนเท่านั้น
ในตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก
แต่เนื่องจากผมจำเสียงของท่านได้ผมจึงทำตามคำสั่งของท่าน
ท่านบอกว่าเครื่องบินของท่านเพิ่งมาถึงและท่านอยากไปที่ศูนย์ภายใน 30 นาที
ผมรู้สึกตื่นเต้นมากและนึกไม่ออกว่า
ทำไมท่านจึงอยากไปเยือนศูนย์ที่เต็มไปด้วยหิมะของเราซึ่งอยู่ในชนบท
และโดยเฉพาะท่านมีแผนการอะไรที่จะทำที่นั่น
การจราจรหนาแน่นมากในเมืองเหมือนเช่นปกติ
และภรรยาของผมซึ่งเป็นลูกศิษย์ด้วย
และกำลังนั่งอยู่ตรงที่นั่งผู้โดยสารได้บอกผมให้ไปให้เร็วขึ้น ดังนั้น
ผมจึงได้ขับเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
คุณคงสามารถจินตนาการได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม
แม้ว่าผมไม่ได้เฉลียวใจเลยแม้แต่น้อยว่ากำลังมีอะไรรอผมอยู่ที่นั่น
ผมเพียงแต่รู้สึกถึงความตื่นเต้นอันไม่อาจอธิบายได้
เมื่อมาถึงเราได้ขับผ่านรถแท็กซี่ที่จอดอยู่หน้าศูนย์บูดาเปสท์
และได้เห็นธรรมทูตกวนอิมและพี่สาวคนหนึ่งนั่งอยู่ในรถแท็กซี่
ธรรมทูตได้ออกมาจากรถแท็กซี่และขอให้ผมแปลคำพูดของเขาให้กับคนขับรถ
หลังจากเข้าไปในรถแท็กซี่ผมก็พูดกับคนขับรถและจากหางตาของผม ผมก็ได้เห็น
“พี่สาว” ซึ่งนั่งอยู่ในที่นั่งตอนหลังได้ให้เงินกับเขามากมาย
และขอบคุณเขาที่รอด้วยเสียงอ่อนโยน จากนั้นก็มีความคิดเสมือนสายฟ้าฟาดว่า
เสียงที่ไพเราะคุ้นหูนี้ซึ่งมีแรงสั่นสะเทือนจากสวรรค์
เป็นเสียงที่ได้เติมชีวิตของผมด้วยความสุขอยู่อย่างต่อเนื่อง
ผมหันหลังและไม่สามารถเชื่อสายตาของผม ท่านอาจารย์กำลังนั่งอยู่ที่ตรงนั้น!
ผมเคยเห็นท่านในวีดิทัศน์และในความฝันเท่านั้น
แต่ตอนนี้ท่านกำลังนั่งอยู่ใกล้ๆ และผมรู้สึกเหมือนกับผมอยู่ในเทพนิยาย
ครั้งแรกที่ผมตระหนักว่าผมไม่ได้ฝันไปก็คือเมื่อตอนที่ท่านอาจารย์ได้ออกมาจากรถและสามารถกอดพวกเรา
(ในความฝันของผมๆ มักจะตื่นขึ้นก่อนการสวมกอด)
และผมรู้สึกดีใจมากเพราะว่าผมไม่เคยคิดว่าผมจะได้กอดท่านอาจารย์ที่รักของผม
วันเวลาได้เริ่มต้นเป็นสีเทาและเยือกเย็น
แต่เมื่อได้เห็นท่านอาจารย์ทุกสิ่งก็เบ่งบานในหัวใจของเรา
และพระอาทิตย์ถึงกับส่องแสงเนื่องจากความสุขอย่างมหันต์ของเราๆ
จึงหนาวเย็นไปทั่วตัวเพราะเรารู้ว่าเราเป็นบุคคลผู้โชคดีที่สุดในโลก
จากนั้นท่านอาจารย์ก็ได้เยี่ยมชมศูนย์บูดาเปสท์อย่างสั้นๆ
นั่งในเก้าอี้ที่จัดไว้ให้ท่าน ดื่มน้ำมะม่วง
และเดินทางไปยังศูนย์ที่อยู่ในชนบทกับพวกเรา
ท่านอาจารย์ได้สังเกตเห็นภัตตาคารจีนที่อยู่ตามทาง
และได้เชิญเราไปรับประทานอาหารเย็น ในภัตตาคารท่านได้บอกว่าเราเป็นชาวพุทธ
และรับประทานอาหารมังสวิรัติเท่านั้น
และอธิบายว่าจะทำอาหารมังสวิรัติให้กับพวกเราอย่างไร จากนั้น
ท่านก็สั่งอาหารให้กับเราทุกๆ คน และในระหว่างนั้น
ก็ได้บอกให้เราเชิญลูกศิษย์เพิ่มเติมซึ่งอาศัยอยู่ใกล้ แน่นอน
เราไม่ได้บอกพี่ชายพี่สาวว่า
ทำไมพวกเขาควรจะมายังภัตตาคารแต่ปล่อยให้เป็นการประหลาดใจ ขณะที่รอคนอื่นๆ
อยู่เราก็เริ่มต้นรับประทานอาหารเย็น
และท่านอาจารย์ก็ได้ยื่นอาหารให้กับทุกๆ คนอย่างเต็มไปด้วยความรัก
เราได้เล่าเรื่องตลกอย่างมีความสุขด้วย ในระหว่างนั้น ลูกศิษย์คนอื่นๆ
ก็ได้มาถึงทีละคน 2 คน
และอาจารย์ผู้เป็นที่รักของเราก็ได้สวมกอดพวกเขาทุกคน
ลูกศิษย์มากมายไม่อาจเชื่อตาของพวกเขาได้
เมื่อพวกเขาได้เห็นท่านอาจารย์และทุกคนรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากอาหารเย็นเราก็ได้ไปซื้อของและขับไปยังศูนย์ที่อยู่ในชนบท
จากนั้นหลายวันต่อมา
ด้วยพระกรุณาธิคุณของท่านอาจารย์เราก็ได้เข้าร่วมฌานอันเหลือเชื่อ