สมาคมอาหารมังสวิรัติ
(วีเคเอส) จะจัดงานฉลองที่ปูซานในบ่ายวันที่ 26 พฤษภาคม
เป็นการฉลองที่ได้จัดตั้งเป็น “องค์กรที่มิใช่ของรัฐ” (เอ็นจีโอ นอน
กัฟเวอร์นเมนท์ ออร์แกไนเซชั่น) ขณะเดียวกันจะเผยแพร่อาหารมังสวิรัติด้วย
ผู้ก่อตั้งและเป็นนายกสมาคม คุณแจโอพาร์ท
(สมาชิกสมาคมนานาชาติอนุตราจารย์ชิงไห่ อายุ 46 ปี
ทนายความอาชีพแห่งมณฑลจุนบุค) กับนายกสมาคมอาหารมังสวิรัติแห่งฮาวาย
ดร.คาร์ลเซฟฟ์(Dr.Carl Seff ปัจจุบันเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยฮาวาย)
จะมาในงานนี้ทั้งสองท่าน
คุณปาร์ก
เป็นโฆษกในการรณรงค์อาหารมังสวิรัติ ท่านเคยทำงานศาลยุติธรรมมาเป็นเวลา 8
ปีที่เมืองโซลกับจุงจู ต่อมาได้ออกจากงานเมื่อปี 2543
และได้แถลงการณ์ว่าหน้าที่การงานทำให้ท่านไม่สามารถนำสังคมไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ถูกต้อง
ดังนั้น ท่านตัดสินใจทำงานด้านวิจัยเกี่ยวกับศาสนากับวิชาปรัชญา
หวังว่าจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ดี
หลังจากแถลงการณ์แล้วท่านเริ่มรับประทานอาหารมังสวิรัติระยะยาว
และได้เปิดสำนักงานทนายความขึ้นที่บ้านเกิด
เขาใช้เวลาบางส่วนเท่านั้นในการทำวิชาชีพ เพราะจุดมุ่งหมายของชีวิตเขา
คือการรณรงค์ประโยชน์การทานอาหารมังสวิรัติ
คุณปาร์กพยายามเผยแพร่ประโยชน์ของอาหารมังสวิรัติทั่วประเทศ
จากการประเมินปัจจุบันจำนวนชาวมังสวิรัติทั่วประเทศเกาหลีมีถึงร้อยละ 1
ทีเดียว
“ผมเริ่มทำงานด้านนี้ เพื่อให้ผู้คนทราบว่าอาหารมังสวิรัติมีประโยชน์มาก
สามารถนำความโชคดีกับความสุขมาให้กับชีวิตของเรา
หลายปีที่ผ่านมาการรณรงค์อาหารมังสวิรัติถูกจำกัดอยู่เฉพาะองค์กรที่มีชาวมังสวิรัติเท่านั้น
องค์กรและการจัดงานเหล่านี้ต้องมีการจัดตั้งและโครงสร้างเพื่อให้สอดคล้องกับอุดมการณ์ของสมาคมมังสวิรัติแห่งเกาหลี
เมื่อพวกเราได้ขึ้นมาเป็นองค์กรที่ไม่ใช่ของรัฐแล้ว
ทุกเดือนจะตีพิมพ์วารสารขึ้น 1 ฉบับ และลงมือวิจัยต่อไป
เพื่อให้ผู้คนเข้าใจถึงจุดดีของอาหารมังสวิรัติ เป็นต้นว่า
มีประโยชน์กับสุขภาพ แก้ปัญหาอดอยากของโลก
ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ เคารพต่อชีวิต
สอดคล้องกับความถูกต้องของสังคม กับการทำให้อาหารมีความมั่นคงต่างๆ
เป็นต้น”
คาดว่าในวันนั้นจะมีองค์กรกับบุคคลมากมายจากสถานที่ต่างๆ
มาร่วมงานในครั้งนี้
องค์กรเหล่านี้ประกอบด้วยองค์กรมังสวิรัติจากเมืองอื่นๆ สมาคมคาทอลิก
(เอสดีเอ) องค์กรศาสนาพุทธอี๋ก้วนเต้า (IIgwando) สมาคมอานันดา (อนันดา
มาร์กา) ต่างๆ นอกจากนี้ จะมีบุคคลจากสถาบันการรักษาพยาบาล
สมาคมป้องกันและคุ้มครองสัตว์กับองค์กรรักษาสิ่งแวดล้อมมาเข้าร่วมงานด้วย
“หลายปีที่ผ่านมาทุกคนยังคิดว่าการไม่รับประทานเนื้อสัตว์เป็นเรื่องประหลาด
แต่ปัจจุบันได้พิสูจน์แล้วว่าการรับประทานเนื้อสัตว์ทำให้ร่างกายเกิดโรคมากมาย
เป็นที่ทราบกันดีว่าการพัฒนาฟาร์มเพื่อเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นสร้างมลภาวะแก่ดินกับน้ำที่อยู่ใกล้เคียง
นอกจากนี้แล้ว
การพัฒนาฟาร์มสัตว์ด้วยการตัดไม้ทำลายป่าจะทำให้เกิดภัยแล้งกับอุทกภัย”
แต่ว่าข่าวสำคัญที่คุณปาร์ก จะบอกต่อคือ:
อาหารมังสวิรัติช่วยให้จิตวิญญาณของเราพัฒนาไปในทางที่ถูกต้อง
“เมื่อก่อนที่ผมยังรับประทานเนื้อสัตว์อยู่
มักจะคิดว่าการรับประทานเนื้อสัตว์เหมือนกับการสร้างหนี้ขึ้นมามากมาย
สำหรับด้านจิตวิญญาณแล้วหนี้สินเหล่านี้ ในที่สุดเราต้องเป็นผู้ใช้คืน
ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ จะทำงานด้านสันติและไม่ทำเรื่องรุนแรง
และเนื่องจากการกิน ดื่ม พวกเราจะรักธรรมชาติจากใจตนเอง
อาหารมังสวิรัติทำให้พวกเรามีสุขภาพที่แข็งแรงยิ่งขึ้น
และทำให้พวกเราเปลี่ยนแปลงในการมองชีวิตและธรรมชาติ นี่ก็คือ “สุขภาพดี
ปลอดภัย มีความสุข เป็นประโยชน์” ที่แท้จริงมิใช่หรือ?
สิ่งที่เป็นประโยชน์กับเราก็จะเป็นประโยชน์กับจักรวาลและธรรมชาติด้วย
นี่เป็นเหตุผล ที่ข้าฯมารับประทานมังสวิรัติ”
คุณปาร์กยังได้อธิบายอีกว่า “บางคนอาจถามว่า “ถ้ารับประทานมังสวิรัติแล้ว
ทำให้ขาดสารอาหาร จะทำอย่างไรดี?” “ถ้าหากรับประทานได้แต่ผัก
แล้วจะมีอะไรเหลือให้รับประทานอีก?” ความจริง
อาหารของนักมังสวิรัติก็เหมือนกับอาหารคนอื่นๆ
แต่พวกเขาจะใช้แต่อาหารโปรตีนประเภทที่มาจากเมล็ดพันธ์เปลือกแข็งกับผักต่างๆ
มาทำเป็น ขาหมูเค็มเจ เนื้อเจ ไก่เจต่าง ๆ จากถั่วเหลืองมาแทนเนื้อสัตว์
สุดท้ายท่านกล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมหวังว่าสังคมของพวกเราจะก้าวหน้าขึ้น
ขณะที่นักโภชนาการกับพ่อครัวกำลังเตรียมอาหารกลางวันในโรงเรียนหรือในค่ายทหารนั้น
ก็ได้ให้ความเสมอภาพกับการรับประทานอาหารของนักมังสวิรัติ” (รายงานโดย
คุณจินอิ๋นอิง)