รายงานสื่อมวลชน

หนังสือพิมพ์รายวันปูซาน ฉบับลงวันที่ 25/3/2548

อาศัยการรับประทานอาหารมังสวิรัติ

เพื่อพัฒนา จิตเมตตา ของมวลมนุษย์

(ต้นฉบับเป็นภาษาเกาหลี)

สมาคมอาหารมังสวิรัติ (วีเคเอส) จะจัดงานฉลองที่ปูซานในบ่ายวันที่ 26 พฤษภาคม เป็นการฉลองที่ได้จัดตั้งเป็น “องค์กรที่มิใช่ของรัฐ” (เอ็นจีโอ นอน กัฟเวอร์นเมนท์ ออร์แกไนเซชั่น) ขณะเดียวกันจะเผยแพร่อาหารมังสวิรัติด้วย

ผู้ก่อตั้งและเป็นนายกสมาคม คุณแจโอพาร์ท (สมาชิกสมาคมนานาชาติอนุตราจารย์ชิงไห่ อายุ 46 ปี ทนายความอาชีพแห่งมณฑลจุนบุค) กับนายกสมาคมอาหารมังสวิรัติแห่งฮาวาย ดร.คาร์ลเซฟฟ์(Dr.Carl Seff ปัจจุบันเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยฮาวาย) จะมาในงานนี้ทั้งสองท่าน

คุณปาร์ก เป็นโฆษกในการรณรงค์อาหารมังสวิรัติ ท่านเคยทำงานศาลยุติธรรมมาเป็นเวลา 8 ปีที่เมืองโซลกับจุงจู  ต่อมาได้ออกจากงานเมื่อปี 2543 และได้แถลงการณ์ว่าหน้าที่การงานทำให้ท่านไม่สามารถนำสังคมไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ถูกต้อง ดังนั้น ท่านตัดสินใจทำงานด้านวิจัยเกี่ยวกับศาสนากับวิชาปรัชญา  หวังว่าจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ดี หลังจากแถลงการณ์แล้วท่านเริ่มรับประทานอาหารมังสวิรัติระยะยาว และได้เปิดสำนักงานทนายความขึ้นที่บ้านเกิด เขาใช้เวลาบางส่วนเท่านั้นในการทำวิชาชีพ เพราะจุดมุ่งหมายของชีวิตเขา คือการรณรงค์ประโยชน์การทานอาหารมังสวิรัติ คุณปาร์กพยายามเผยแพร่ประโยชน์ของอาหารมังสวิรัติทั่วประเทศ  จากการประเมินปัจจุบันจำนวนชาวมังสวิรัติทั่วประเทศเกาหลีมีถึงร้อยละ 1 ทีเดียว

“ผมเริ่มทำงานด้านนี้ เพื่อให้ผู้คนทราบว่าอาหารมังสวิรัติมีประโยชน์มาก สามารถนำความโชคดีกับความสุขมาให้กับชีวิตของเรา หลายปีที่ผ่านมาการรณรงค์อาหารมังสวิรัติถูกจำกัดอยู่เฉพาะองค์กรที่มีชาวมังสวิรัติเท่านั้น องค์กรและการจัดงานเหล่านี้ต้องมีการจัดตั้งและโครงสร้างเพื่อให้สอดคล้องกับอุดมการณ์ของสมาคมมังสวิรัติแห่งเกาหลี เมื่อพวกเราได้ขึ้นมาเป็นองค์กรที่ไม่ใช่ของรัฐแล้ว ทุกเดือนจะตีพิมพ์วารสารขึ้น 1 ฉบับ และลงมือวิจัยต่อไป เพื่อให้ผู้คนเข้าใจถึงจุดดีของอาหารมังสวิรัติ เป็นต้นว่า มีประโยชน์กับสุขภาพ แก้ปัญหาอดอยากของโลก ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ เคารพต่อชีวิต สอดคล้องกับความถูกต้องของสังคม กับการทำให้อาหารมีความมั่นคงต่างๆ เป็นต้น”

คาดว่าในวันนั้นจะมีองค์กรกับบุคคลมากมายจากสถานที่ต่างๆ มาร่วมงานในครั้งนี้ องค์กรเหล่านี้ประกอบด้วยองค์กรมังสวิรัติจากเมืองอื่นๆ สมาคมคาทอลิก (เอสดีเอ) องค์กรศาสนาพุทธอี๋ก้วนเต้า (IIgwando) สมาคมอานันดา (อนันดา มาร์กา) ต่างๆ นอกจากนี้ จะมีบุคคลจากสถาบันการรักษาพยาบาล สมาคมป้องกันและคุ้มครองสัตว์กับองค์กรรักษาสิ่งแวดล้อมมาเข้าร่วมงานด้วย

“หลายปีที่ผ่านมาทุกคนยังคิดว่าการไม่รับประทานเนื้อสัตว์เป็นเรื่องประหลาด แต่ปัจจุบันได้พิสูจน์แล้วว่าการรับประทานเนื้อสัตว์ทำให้ร่างกายเกิดโรคมากมาย เป็นที่ทราบกันดีว่าการพัฒนาฟาร์มเพื่อเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นสร้างมลภาวะแก่ดินกับน้ำที่อยู่ใกล้เคียง นอกจากนี้แล้ว การพัฒนาฟาร์มสัตว์ด้วยการตัดไม้ทำลายป่าจะทำให้เกิดภัยแล้งกับอุทกภัย”

แต่ว่าข่าวสำคัญที่คุณปาร์ก จะบอกต่อคือ: อาหารมังสวิรัติช่วยให้จิตวิญญาณของเราพัฒนาไปในทางที่ถูกต้อง “เมื่อก่อนที่ผมยังรับประทานเนื้อสัตว์อยู่ มักจะคิดว่าการรับประทานเนื้อสัตว์เหมือนกับการสร้างหนี้ขึ้นมามากมาย สำหรับด้านจิตวิญญาณแล้วหนี้สินเหล่านี้ ในที่สุดเราต้องเป็นผู้ใช้คืน ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ จะทำงานด้านสันติและไม่ทำเรื่องรุนแรง และเนื่องจากการกิน ดื่ม พวกเราจะรักธรรมชาติจากใจตนเอง อาหารมังสวิรัติทำให้พวกเรามีสุขภาพที่แข็งแรงยิ่งขึ้น และทำให้พวกเราเปลี่ยนแปลงในการมองชีวิตและธรรมชาติ นี่ก็คือ “สุขภาพดี ปลอดภัย มีความสุข เป็นประโยชน์” ที่แท้จริงมิใช่หรือ? สิ่งที่เป็นประโยชน์กับเราก็จะเป็นประโยชน์กับจักรวาลและธรรมชาติด้วย นี่เป็นเหตุผล ที่ข้าฯมารับประทานมังสวิรัติ”

คุณปาร์กยังได้อธิบายอีกว่า “บางคนอาจถามว่า “ถ้ารับประทานมังสวิรัติแล้ว ทำให้ขาดสารอาหาร จะทำอย่างไรดี?”  “ถ้าหากรับประทานได้แต่ผัก แล้วจะมีอะไรเหลือให้รับประทานอีก?” ความจริง อาหารของนักมังสวิรัติก็เหมือนกับอาหารคนอื่นๆ แต่พวกเขาจะใช้แต่อาหารโปรตีนประเภทที่มาจากเมล็ดพันธ์เปลือกแข็งกับผักต่างๆ มาทำเป็น ขาหมูเค็มเจ เนื้อเจ ไก่เจต่าง ๆ จากถั่วเหลืองมาแทนเนื้อสัตว์

สุดท้ายท่านกล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมหวังว่าสังคมของพวกเราจะก้าวหน้าขึ้น ขณะที่นักโภชนาการกับพ่อครัวกำลังเตรียมอาหารกลางวันในโรงเรียนหรือในค่ายทหารนั้น ก็ได้ให้ความเสมอภาพกับการรับประทานอาหารของนักมังสวิรัติ” (รายงานโดย คุณจินอิ๋นอิง)

 

รายงานสื่อมวลชน
เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ช่วยชีวิตเด็กทารกที่ถูกทอดทิ้งในเคนยา