ความอ่อนน้อมถ่อมตนทำให้เข้าถึงสัจธรรม
ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ซีหู ฟอร์โมซา
13  สิงหาคม 2532
 

บุคคลที่อ่อนน้อมถ่อมตนจะเข้าถึงพุทธโพธิสัตว์ได้ง่ายมาก จิตใจที่บริสุทธิ์จะเข้าถึงสัจธรรม เรายิ่งยโสโอหังก็ยิ่งห่างไกลจากสัจธรรม  เหตุใดจึงห่างไกลจากสัจธรรมเป็นเพราะเราพึ่งพิงอาศัยทางโลก  หากเราไม่ได้พึ่งพิงอาศัยทางโลกเราจะไม่ยโสโอหัง  เราอาศัยเงินทอง อำนาจ ความฉลาดและฐานะซึ่งเป็นการอาศัยทางโลก  อาศัยพึ่งพิงในสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้ สัจธรรมไม่ใช่โลกมนุษย์และไม่ใช่สิ่งของที่ไม่เที่ยงแท้ทั้งหลาย  ฉะนั้น เรายิ่งพึ่งพิงทางนี้ เราก็จะยิ่งห่างไกลอีกทางหนึ่งที่เป็นทางตรงกันข้าม ตามทฤษฎีเชิงตรรกศาสตร์ได้อธิบายไว้เช่นนี้ ซึ่งไม่มีอะไรยากแก่การเข้าใจ

ไม่มีเงินทอง ไม่มีอำนาจ ยามแก่เฒ่าก็ไม่มีใครดูแล ซึ่งคนแบบนี้จะมีความอ่อนน้อมถ่อมตนค่อนข้างมาก ฉะนั้น บ่อยครั้งพวกเธอจึงเห็นว่าอาจารย์ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างดี หรือปฏิบัติต่อนักโทษในเรือนจำอย่างดี  แต่สำหรับพวกเธอแล้วบางครั้งกลับไม่ค่อยดีเท่าไหร่อาจารย์ต้องขออภัยด้วย แต่ธรรมชาติมันแสดงออกมาเป็นแบบนี้ อาจารย์ไม่ได้ตั้งใจดีกับพวกเขา และในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ตั้งใจจะไม่ดีกับพวกเธอ  อาจารย์เป็นเพียงกระจกบานหนึ่งเท่านั้นพวกเธอส่องมาอย่างไรก็สะท้อนกลับอย่างนั้น  อย่าโทษอาจารย์เลยนะว่าทำไมต้องทำกับพวกเธออย่างนั้น  และอย่าเปรียบเทียบว่า "ทำไมอาจารย์ดีกับคนนั้นเหลือเกิน แต่ไม่ดีกับฉันเลย"  ถ้าอาจารย์ดีกับใครบางคนเธอลองสังเกตดูเขาก็ทราบแล้วว่าเขาต้องมีอะไรดีที่ทำให้อาจารย์ดีกับเขามาก เขาอาจจะไม่ได้สวยกว่าเธอก็ได้ ไม่แน่  บางทีอาจจะอยู่ในสภาพฟันหลุดหมดแล้วก็ได้ แถมอาจารย์ยังต้องเอาเงินให้เขาอีกด้วย แต่อาจารย์ก็ดีกับเขามากเหลือเกินเพราะใจเขาบริสุทธิ์มาก ถ่อมตนมาก ไม่มีมลทินใดๆ ไม่มีสิ่งกีดขวาง ไม่มีอัตตาใดๆ และไม่มีอะไรเป็นที่ยึดเหนี่ยว ใจเขาจะเปิดกว้างสุดประมาณเกือบรวมเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล

หากเรายังมีอะไรไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวตัวเราก็จะกลายเป็นมีขีดจำกัด -- ฉันคือขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ ฉันคือคนที่มีคุณธรรม ฉันคือคนที่เข้าถึงสัจธรรม เราจะยังมีพรมแดนและมีช่องว่างมุมหนึ่งที่ยังไม่ได้ถูกเปิดออกมา บุคคลที่บริสุทธิ์ถ่อมตนทั้งหลายไม่มีอะไรเป็นที่ยึดเหนี่ยว แต่การที่ไม่มีอะไรเลยคือการที่มีพร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง