เมสไซยาห์มาแล้ว !

 

ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่  แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
วันที่  19 พฤษภาคม   2534 (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

 

ถ: ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับพระธรรมคัมภีร์เดิมและศาสนาชาวยิว?

อ: เป็นสิ่งที่ดี แต่ขอความกรุณาอย่ามัวแต่รอเมสไซยาห์ (ผู้ที่พระเจ้ามอบหมายให้กู้โลก) เพราะท่านมาอยู่ตลอดเวลา จงภาวนาขอให้เธอมองออกว่าเมสไซยาห์คนปัจจุบันคือใคร  จงอย่าภาวนาและรอคอยเมสไซยาห์ที่เธอกำลังรอคอยอยู่ ท่านจะไม่มีวันมา  หากเธอคาดหวังให้ท่านมาในลักษณะที่เธอต้องการ เช่นเดียวกับในสมัยที่พระเยซูมา พวกเขาก็คาดหวังว่าจะเจอเมสไซยาห์ในแบบหนึ่งนั้น แล้วก็ฆ่าคนที่พวกเขากำลังมีอยู่ เราคอยแต่ทำสิ่งโง่เดิมๆ นี้อยู่เรื่อย

ไม่ใช่ว่าศาสนาชาวยิวไม่ดี หากแต่เป็นเราซึ่งโง่เขลา แม้แต่พระเยซูยังสัญญาว่าจะส่งผู้ปลอบประโลมใจมาให้  หมายความว่าหลังจากที่ท่านจากไปแล้วจะมีผู้อื่นมา ใครสักคนซึ่งสามารถปลอบประโลมเราได้ หมายความว่า ใครคนหนึ่งที่เสมอเหมือนกับท่าน แต่เรายังคงรอคอยมาเป็นเวลา 2,000 ปีแล้ว มีเมสไซยาห์มาแล้วก็ไปมากมายหลายคนแล้ว ส่วนเรายังคงอยู่ที่นี่รอคอยให้ใครสักคนลงมาจากฟากฟ้า ท่านจะไม่มีวันมาหากเรารอในลักษณะนี้

เราได้ยินมาว่าพระเยซูจะกลับมาปรากฏตน แล้วเธอคิดว่าพระองค์จะมาในลักษณะใด? ติดปีก มีเครา หรือมาพร้อมไม้กางเขนหรือ เพื่อว่าเราจะได้จำพระองค์ได้? เราจะจำพระองค์ได้อย่างไรหากพระองค์มาอีกครั้งหนึ่ง? เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพระเยซูมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร เรามิได้อยู่ที่นั่น หรือเราอาจอยู่ที่นั่น แต่นั่นก็ 2,000 ปีแล้ว ใครจะมีความทรงจำดีอะไรขนาดนั้น? (เสียงหัวเราะ)

พระเยซูมา มิใช่ด้วยรูปร่างหน้าตาแต่ด้วยวิญญาณ  พระเยซูสามารถมาหาทุกคนได้ที่เปิดรับเพียงพอ และเปิดประตูที่ถูกต้องเพื่อให้ท่านเข้าไปได้ แล้วจากนั้น เราจะกลายเป็นเหมือนพระเยซูหรือคล้ายพระบิดา เพราะในขณะนั้นพระเยซูได้กลับมาอีกครั้ง พระองค์กลับมาตลอดเวลา เมื่อใดก็ตามที่เราพร้อมพระองค์ก็มา พระองค์มาผ่านอาจารย์ท่านใดก็ได้ที่สามารถให้พระองค์เข้าพักอยู่ ที่ให้พลังยิ่งใหญ่ของพระองค์เข้าพักอยู่ได้ บุคคลนั้นก็คือพระเยซูเช่นเดียวกัน อาจจะมีทรงผมที่แตกต่างไป หรืออาจจะใส่รองเท้าส้นสูง แต่เขาก็ยังคงเป็นพระเยซู (เสียงหัวเราะและเสียงปรบมือ)

 

 

ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ซิดนีย์ ออสเตรเลีย
17 มีนาคม 2531 (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

: ท่านเชื่อหรือเปล่าว่าพระเยซู เมสไซยาห์ผู้สูงสุดแห่งจักรวาล ผู้ซึ่งเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าได้กล่าวไว้ว่า "ฉันเป็นหนทาง เป็นสัจธรรม และเป็นชีวิต จะไม่มีใครได้ไปหาพระบิดาถ้าไม่ผ่านฉัน" ท่านเชื่อไหมว่าจะไม่มีใครได้ขึ้นสู่สวรรค์ สู่บ้านของพระเจ้า ยกเว้นถ้าผ่านพระเยซู?

: ใช่ เป็นความจริง อาจารย์ทุกท่านได้กล่าวว่าอย่างนั้น "เยซู" คือชื่อเรียกร่างกายของท่าน "พระคริสต์" เป็นชื่อเรียกของท่าน อาจารย์ทุกท่านควรจะมีพลังพระคริสต์นี้ ดังนั้น ในแง่มุมหนึ่งพระเยซูไม่เคยตาย พระเยซูทำงานผ่านบรรดาอาจารย์ทั้งหลายตลอดทุกศตวรรษ ทุกยุคทุกสมัย เพื่อปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระและทำให้เรารู้แจ้ง เราผู้โง่เขลาซึ่งยังถูกทิ้งอยู่เบื้องหลัง แต่พระเยซูเพียงลำพังไม่สามารถทำให้เรารู้แจ้งได้ หากพระองค์ได้จากไปแล้ว แน่นอน พระองค์สามารถทำได้ในระดับหนึ่ง แต่เราเป็นมนุษย์ เราไม่สามารถติดต่อกับพระองค์ได้เมื่อพระองค์อยู่ในภูมิภพที่สูงกว่า ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีอาจารย์ที่มีกายเนื้อ แต่พลังพระคริสต์ทำงานผ่านอาจารย์กายเนื้อท่านใดๆ ก็ได้ซึ่งมีชะตาหรือได้รับหน้าที่ในเวลานั้น

ดังนั้น เมื่อพระเยซูตรัสว่าพระองค์เป็นเพียงหนทางเดียวและเป็นเพียงผู้เดียว พระองค์ได้ตรัสความจริงโดยแท้ แต่อาจารย์ท่านอื่นใดก็กล่าวความจริงเช่นกัน เมื่ออาจารย์ท่านนั้นมีชีวิตอยู่

ฉันทราบว่าเรามีปัญหาในเรื่องของการยึดติดกับพระคัมภีร์ เรื่องเช่นนี้ก็เกิดขึ้นกับชาวพุทธมากมายหลายคนเช่นกัน พระคัมภีร์และพระสูตรนั้นเป็นหลักฐานอันยอดเยี่ยมเกี่ยวกับอาจารย์ในอดีต แต่ก็เป็นก้อนหินขัดขาอันยอดเยี่ยมที่นำไปสู่การยึดติดทางปัญญาของเราด้วย ฉันทราบว่ามันยากยิ่งนัก ฉันเพียงสามารถภาวนาให้เธอประสบกับสิ่งที่ดีที่สุด และฉันเพียงสามารถรอคอยอย่างใจเย็นจนกระทั่งถึงเวลาที่เธอจะเข้าใจ พระคัมภีร์เป็นเพียงบันทึกของอาจารย์ผู้ได้เมตตาโลกของเรา แต่แล้วสำหรับคนที่เกิดก่อนพระเยซูและหลังพระเยซูเล่า พวกเขาที่เกิดหลังพระเยซูคงบอกว่า "โอเค เราได้ยินพระนามของพระองค์ แล้วเราก็จะได้รับการไถ่บาป" แต่สมัยพันล้านหมื่นล้านปีก่อนพระเยซูเล่า ไม่มีใครมาช่วยพวกเขาหรืออย่างไร? พระบิดาช่างไร้ความเมตตา เพียงส่งพระบุตรให้เราเพียงคนเดียวและเพียงครั้งเดียวอย่างนั้นหรือ? พระองค์จะขี้เหนียวขนาดนั้นเชียวหรือ?

หากพระเยซูได้ไถ่บาปให้พวกเราทั้งหมด แล้วเธอสามารถตอบได้ไหมว่าทำไมพวกเราจึงยังคงโง่เขลาอยู่? ยังมีอีกมากมายหลายสิ่งที่เราไม่ทราบ สวรรค์นั้นเราก็ติดต่อไปไม่ได้ บางคนติดต่อได้เมื่อเขาภาวนาอย่างลึกซึ้งมากๆ และจริงใจต่อพระเยซู บางครั้งพระองค์อาจจะปรากฏต่อพวกเขาและสอนเขาบางคน แต่เป็นจำนวนน้อยมาก พระองค์ไม่ปรากฏต่อพวกเราได้ทุกคน แต่ต่อลูกศิษย์ของเราพระองค์ปรากฏให้เห็น เพราะเราทราบวิธีที่จะติดต่อกับพระองค์ เราสามารถขึ้นสู่ระดับของพระองค์และรับคำสอนจากพระองค์ได้โดยตรง

ฉันมิได้สอนอะไรที่แตกต่างไป แต่หากเธอประสงค์จะพบพระเยซูและพระเจ้าฉันก็จะช่วยเธอ ก็เพียงแค่นั้น แต่เฉพาะหากเธอเชื่อเท่านั้น แทนที่จะยึดติดอยู่กับบันทึกในอดีตของมหาอาจารย์ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราจะอ่านไม่เข้าใจ