ใช้ปัญญาของเธอเมื่อรู้ว่าถึงเวลาตัดใจเมื่อไร

ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
วันที่ 4-5 ตุลาคม 2541 (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ) วิดีทัศน์ที่ 638

ในสมัยก่อน เราไม่มีวิธีการสื่อสาร หรือเครื่องบิน หรือพาหนะใช้โดยสารมากมาย ที่เรามีเดี๋ยวนี้ ดังนั้น อาจารย์จึงไปประเทศอินเดียโดยเดินเท้า เขาไม่เคยไปประเทศอินเดียมาก่อน บางทีเขามาจากเปอร์เซีย และเมื่อเขาไปถึงที่นั่นเขาก็เห็นผลไม้เป็นจำนวนมาก  ในประเทศอินเดียมีผลไม้ขายอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ผลไม้หลายอย่างมีราคาแพง เพราะพวกเขาปลูกพืชได้ไม่มากเนื่องเพราะสภาวะแล้งน้ำ แล้วเขาก็เห็นตะกร้าอยู่ใบหนึ่ง เป็นตะกร้าใบใหญ่ มีผลไม้สีแดงกร่ำและยาวมาก และมันเป็นผลไม้ที่ถูกที่สุดในร้าน ราคาไม่แพงเลย

ดังนั้น เขาจึงขึ้นไปถามว่า "ราคากิโลละเท่าไร?" และเจ้าของร้านตอบว่า " 2 รูปี"  2 รูปีในประเทศอินเดียนั้น แทบจะไม่มีค่าอะไร ราวกับเป็นฝุ่นดิน ดังนั้น เขาจึงซื้อผลไม้ทั้งกิโล และเริ่มรับประทานมันไป แต่หลังจากที่รับประทานมันไปบ้างแล้ว โอ พระเจ้า! นัยน์ตาของเขาก็มีน้ำไหล ปากของเขามีน้ำลายไหลและไหม้ นัยน์ตาก็เหมือนไหม้ และหัวทั้งหัวก็เหมือนไหม้ แล้วใบหน้าของเขาก็กลายเป็นสีแดงขณะที่เขาไอ แล้วก็หายใจไม่ออก และพยายามหายใจ เขาก็กระโดด ขึ้นๆ ลงๆ ร้องว่า "อา!ๆๆ"

แต่เขาก็ยังรับประทานผลไม้ต่อไป! บางคนที่กำลังมองดูเขาก็ส่ายหน้า พลางกล่าวว่า "คุณเป็นคนที่บ้าเหลือเกิน เหล่านั้นคือพริก! คุณรับประทานมากๆ ไม่ได้! มันไม่ดีสำหรับคุณ! คนเขาใช้กันเป็นเครื่องปรุง แต่แค่นิดหน่อยเพื่อใส่ลงไปในอาหารให้มีรสชาติ คุณไม่สามารถรับประทานเป็นกำมืออย่างนี้ได้ มันไม่ใช่ผลไม้!"  ดังนั้น อาจารย์ผู้โง่เขลาบอกว่า "ไม่ได้ ฉันหยุดไม่ได้! ฉันจ่ายเงินซื้อมันมา และคราวนี้ก็จะต้องรับประทานมัน มันคือเงินของฉัน!"

 

เธอก็จะคิดว่า อาจารย์ผู้นั้นโง่เขลา ใช่ไหม? ในทำนองเดียวกัน บางครั้งเราจะทำหลายๆ อย่างแบบนั้น เราจะทำหลายสิ่งหลายอย่างแบบนั้น เราลงทุนเงิน เวลา ความพยายาม สู่ความสัมพันธ์หนึ่งๆ ธุรกิจอย่างหนึ่งหรืองาน  แล้วถึงแม้ว่าเป็นเวลาอันยาวนาน ประสบการณ์อันขื่นขมบอกเราว่ามันไม่ได้ผล และเราทราบว่ามันไม่มีความหวังอะไรอีกต่อไปแล้วที่สิ่งต่างๆจะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต สิ่งนี้เรารู้โดยสัญชาติญาณอย่างแน่นอนเราก็ยังคงดำเนินต่อไป

เพราะเราได้ลงทุนเงิน เวลา ความพยายาม และความรัก ลงไปในนั้นแล้วถ้าเช่นนั้น สมองเราจะแตกสลายไป ก็เหมือนกับชายผู้นั้น ผู้รับประทานพริกและเป็นทุกข์มากเหลือเกิน แต่หยุดไม่ได้ เพียงเพราะเขาไม่อยากสิ้นเปลืองเงินที่เขาจ่ายไป

ดังนั้น ถ้าเธอเสียอะไรไปก็ให้ตัดใจเสียแล้วเดินหน้าต่อไป นั่นดีกว่าที่จะคอยเสียต่อไปเรื่อยๆ  นี่เธอจะต้องทราบ! อย่ามาบอกว่า "อาจารย์บอกว่า เราจะต้องอดทนและให้ความรักโดยไร้เงื่อนไข" แล้วปล่อยให้สามีเตะก้นเธอเมื่อไหร่ก็ได้ที่เขาต้องการ  หรือปล่อยให้ภรรยาคอยทำร้ายเธอต่อไป มันไม่ใช่เรื่องดี! ฉันไม่สนับสนุนสิ่งนี้ ฉันพูดมาหลายครั้ง

ในอีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับงูกับพระ อาจารย์สอนงูไม่ให้ใช้กำลัง แต่แล้วงูก็ปล่อยให้ทุกๆ คนทำร้ายมัน พวกเขาเอาหินปามัน เอามันมาปั่นเล่น และอื่นๆ อีก ดังนั้น ท่านอาจารย์ก็เลยบอกงูว่า "ฉันบอกเธอว่าไม่ให้กัด แต่ไม่ได้บอกเธอว่าไม่ให้ขู่" ซึ่งหมายความว่า มันควรทำให้คนกลัวหนีไป นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ เราจะต้องป้องกันตัวเองวิถีทางใดก็ตามที่เป็นไปได้