นี่เป็นเรื่องทางศาสนาพุทธ มีฆราวาสสูงอายุคนหนึ่งชื่อ พง
ซึ่งมีทรัพย์สมบัติมากมาย
วันหนึ่งหลังจากได้พบอาจารย์ผู้รู้แจ้งท่านหนึ่งแล้ว
เขาก็ตระหนักว่าทรัพย์สมบัตินั้นเป็นพิษภัย
มันสามารถเป็นภัยต่อธรรมชาติของมนุษย์และทำให้เกิดความละโมบได้ ดังนั้น
เขาจึงเก็บสมบัติทั้งหมดของเขาลงเรือลำใหญ่ด้วยความตั้งใจที่จะโยนมันทิ้งทะเล
พอถึงเวลาที่เขากำลังจะโยนมันลงทะเล
โจรสลัด 500 คนก็ปรากฏกายขึ้นมาจะปล้นเรือของเขา
แน่นอนที่พงไม่รู้สึกกลัวเลย
ดังนั้น เขาจึงยืนคอยโจรสลัด เมื่อพวกนั้นเริ่มขึ้นมาบนเรือ พงก็บอกพวกเขาว่า
"พวกเธอต้องการสิ่งนี้ก็เข้ามาเลย มาเอามันไปให้หมด!"
พวกโจรสลัดรู้สึกประหลาดใจมาก พวกเขาไม่เคยเห็นนักเดินทางแบบนี้
ซึ่งแทนที่จะตกใจกลัวกลับขอให้พวกเขาเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปด้วยความยินดี
พวกเขาจึงถามว่า "ทำไมท่านจึงไม่เหมือนใคร?"
ทำไมท่านจึงยอมให้พวกเราเอาทรัพย์สมบัติของท่านไปโดยไม่มีการยึดติดหรือมีความเศร้าโศก
หรือมีความตกใจกลัวแม้แต่น้อย"?
พงตอบว่า
"ฉันจะต้องไปยึดติดกับอะไร? ฉันจะต้องกลัวอะไรกัน? ฉันรู้ว่ามันไม่มีอะไรเลย
นอกจากเป็นยาพิษ และกำลังจะโยนมันลงทะเลอยู่แล้ว
หากพวกเธอรู้สึกว่ามันจะเป็นประโยชน์กับพวกเธอได้บ้าง ฉันก็ขอยกให้พวกเธอเลย
หลังจากฟังเขาพูด พวกที่เรียกว่าโจรสลัดห้าร้อยคนเหล่านี้ก็สะดุ้งรู้สึกตัว
พวกเขาคุกเข่าลงต่อหน้าเขาด้วยความสำนึกผิด และขอเป็นลูกศิษย์ของเขา
พงก็อ้าแขนรับพวกเขาด้วยดี
เขาบริจาคทรัพย์สมบัติทั้งหลายของเขาให้แก่วัดแห่งหนึ่งเป็นทานแก่ "อรหันต์"
(นักบุญ) ทั้ง 500 คนนี้
ต่อมาพวกเขาก็กลับกลายเป็นพระฝึกปฏิบัติบำเพ็ญและบรรลุอรหันต์ในที่สุด
รู้แจ้งแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
เราสามารถเรียนรู้จากเรื่องนี้ได้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติ
จากเรื่องนี้ เมื่อเห็นว่าพงกำลังจะโยนสมบัติทั้งหมดลงทะเล เราอาจคิดว่า "วาว!
คนๆ นี้เป็นผู้รู้แจ้งที่แท้จริง! น่าอัศจรรย์นัก!"
อย่างไรก็ตาม ในตอนจบของเรื่อง เมื่อได้เห็นเขาบริจาคสมบัติเขาให้แก่พระ
และเปลี่ยนโจรสลัดให้กลายเป็นพระ ฉันก็คิดว่าเขาทำตัวในทางที่ดีกว่า
อาจพูดได้ว่าเขาไม่ผิดที่โยนสมบัติของเขาลงทะเล
แต่เขารู้แจ้งแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เป็นเพราะเขายังคงตัดสินว่าอะไรดี
อะไรเลว ด้วยความคิดที่มีกรอบแห่งการยึดติด และจิตใจที่มีการแบ่งแยก
ในเวลานั้น ความคิดของเขาค่อนข้างสุดโต่ง
เขาคิดว่ามันเป็นการดีที่จะละทุกสิ่งทุกอย่าง
และมันเป็นการเลวที่จะเก็บทรัพย์สมบัติไว้
ความคิดที่มีการแบ่งแยกแสดงให้เห็นถึงการรู้แจ้งที่ไม่สมบูรณ์ของระดับชั้นทางจิตวิญญาณของเขา
ไม่มีอะไรที่เลวสำหรับผู้รู้แจ้งที่แท้จริง
เขาสามารถใช้ทุกอย่างให้เป็นประโยชน์ได้ ถ้าไม่ได้พบโจรสลัดห้าร้อยคนในทะเล
เขาก็จะไม่ได้รู้แจ้งอย่างสมบูรณ์ ดูคล้ายกับว่าเป็นพง
ผู้ที่ช่วยให้โจรสลัดห้าร้อยคนเป็นอิสระหลุดพ้น ในความเห็นของฉัน
โจรสลัด 500 คนนั่นต่างหากที่ช่วยให้เขาเป็นอิสระหลุดพ้น
(เสียงหัวเราะและปรบมือ) ทำไมหรือ? ก็เพราะถ้าไม่มีพวกเขา
พงจะยังคงติดอยู่กับการแบ่งแยกในเรื่องดีและเลว
เขาคิดว่าเขาควรละทิ้งสมบัติของเขาเพื่อจะได้ยิ่งใหญ่และไม่ยึดติด
เพื่อเป็นผู้ที่รู้แจ้งและมีคุณธรรมอย่างแท้จริง
ผู้ซึ่งเป็นอิสระจากความปรารถนาต่างๆ และทรัพย์สมบัติทางโลก
หลังจากที่ได้พบโจรสลัดห้าร้อยคนนี้แล้ว เขาถึงได้รู้สึกตัว
และตระหนักว่าไม่มีอะไรดีหรือเลวในการมีทรัพย์สมบัติ
มันกลับสามารถช่วยคนห้าร้อยคนให้บำเพ็ญได้เสียอีก นั่นจะไม่ดีกว่าหรือ?
ฉะนั้น มันไม่ได้เป็นการชั่วร้ายที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติ
มันขึ้นอยู่กับว่าเราใช้มันอย่างไร
ถ้าเรามีทรัพย์สมบัติมากมายโดยไม่รู้ว่าจะใช้มันให้เป็นประโยชน์อย่างไร
เราก็จะไม่ดีไปกว่าพวกโจรสลัด ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าคนรวยที่มีตำแหน่งสูงใช้ประโยชน์จากอำนาจของเขา
เพื่อทำความเสียหายหรือกดขี่ผู้อื่น นั่นก็ถือว่าร้ายกาจ
มีบางคนที่ทำลายข้างของผู้อื่นเพราะความยากจนไม่มีเงิน
หรืออยู่ในสภาพที่ได้รับความกดดันอย่างเหลือล้น
ซึ่งจุดชนวนให้เขาระเบิดความโกรธออกมา พวกเขาก็ไม่แย่ไปกว่าพวกแรกหรอก
ดังนั้นเราต้องมองทะลุเข้าไปถึงข้างในภูมิหลังและสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
คนรวยหรือคนมีอำนาจก็ไม่ใช่คนดี หรือคนที่มีบารมีเสมอไป
และคนยากจนคนที่ถูกกดขี่ หรือคนที่ขัดสนก็ไม่ใช่คนเลว ด้วยเหตุนี้พระศากยมุนีพุทธเจ้า
จึงสามารถเปลี่ยนผู้ที่เรียกว่าคนโฉดชั่วช้าสองคนให้กลายเป็นผู้บำเพ็ญ
และพงจึงสามารถเปลี่ยนโจรสลัดห้าร้อยคนให้กลายเป็นพระ
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีประโยชน์
ถ้าหากเธออ่าน
"การผจญภัยสู่แดนปัจฉิม" เธอก็จะรู้ว่าพระถังซำจั๋งซึ่งมีชื่อเสียง
เป็นอาจารย์ที่มีคุณธรรมและทรงอำนาจ มีลูกศิษย์หน้าตาหน้ากลัวอยู่สามคน คนหนี่งมีจมูกยาวและหูใหญ่
อีกคนมีขนดก ในขณะที่อีกคนมีกะโหลกศีรษะร้อยเป็นสายประคำ
คนธรรมดาทั่วไปแค่เหลือบตามองทีแรกก็จะตกใจตายอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามพระถังซำจั๋งก็ไม่ได้กลัวพวกเขา
ท่านกลับรับพวกเขาเป็นลูกศิษย์ของท่าน พวกเขาจึงช่วยสนับสนุนเป็นพวกพระถังซำจั๋ง
และนำคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์กลับคืนมาได้สำเร็จ
ถ้าไม่มีพวกที่เรียกว่าลูกศิษย์แย่ๆ เหล่านี้
พระถังอาจจะไปไม่ถึงแดนปัจฉิมก็ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น!
เนื่องจากหน้าตาพวกเขาดูหน้ากลัวมาก พวกปีศาจจึงกลัวพวกเขา
แม้แต่ปีศาจก็ยังกลัวปีศาจตัวอื่น (อาจารย์และผู้ฟังหัวเราะ) ดังนั้น
ถ้าเราตระหนักถึงกฏแห่งจักรวาล
ถึงความลับของการสรรค์สร้างเราก็สามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมีประโยชน์ขึ้นมา
|