แนวหน้า

สิ่งอันงดงามที่แสดงถึงอนาคต - แสงของท่านอาจารย์ส่องสว่างสุกใสในงานหนังสือแฟรงค์เฟิร์ท

โดยกลุ่มข่าวเยอรมัน (ต้นฉบับเป็นภาษาเยอรมัน)

งานหนังสือแฟรงค์เฟิร์ท ซึ่งถือกำเนิดย้อนหลังไปยังศตวรรษที่ 15 นับเป็นนิทรรศการหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก งานหนังสือในปีนี้ ซึ่งจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 6–10 ตุลาคม 2547 นับเป็นงานที่พิเศษในประวัติศาสตร์ของงาน เนื่องจากแฟรงค์เฟิร์ทได้มีโอกาสต้อนรับผู้จัดนิทรรศการ นักประพันธ์ ศิลปิน และปัญญาชนมากกว่าหมื่นคนจากทั่วโลก รวมไปถึงแขกผู้มีเกียรติจากสมาชิก 17 ชาติของสมาพันธ์อาหรับ ด้วยคำขวัญที่ว่า “โลกอาหรับ วิสัยทัศน์แห่งอนาคต” การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมของงาน ทำให้เกิดสัญลักษณ์ที่โชติช่วงแห่งความหวัง และสิ่งชี้นำที่งดงามและสดใสแห่งมวลมนุษย์ ที่รวมกันอย่างกลมเกลียวในความรักและความเข้าใจ!

สมาชิกของสมาคมอนุตราจารย์ชิงไห่นานาชาติ ได้เข้าร่วมในเหตุการณ์อันพิเศษนี้ด้วยความหวังว่า งานครั้งนี้จะเป็นก้าวแรกในการนำแสงสว่างของธรรมวิถีกวนอิมอันมีค่า มาสู่ผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก และทำให้เกิดพระพรหลายเท่า ซึ่งมากับการบำเพ็ญทางจิตวิญญาณและการรู้แจ้งในพระเจ้า ผู้ประทับจิตรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรม การเมือง และประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่เช่นนี้ ซึ่งบรรดาผู้มีชื่อเสียงและบุคคลในวงการเมืองจำนวนมากมายจากเยอรมนี ประเทศอาหรับและประเทศอื่นๆ มากมายทั่วโลก ได้มีมาร่วมงาน

การเตรียมตัวสำหรับงานนี้ ผู้ประทับจิตได้รีบพิมพ์หนังสือ ฉันมาเพื่อพาเธอกลับบ้าน ในภาษาเยอรมันเป็นครั้งที่ 2 นำอักษรเยอรมันลงบนดีวีดีจำนวนมาก และจัดพิมพ์หนัง ฉันมาเพื่อพาเธอกลับบ้าน เป็นภาษาอารบิค จัดทำหนังสือตัวอย่าง กุญแจการรู้แจ้งฉับพลัน ฉบับแก้ไขภาษาอารบิค และการทำบรรยายอักษรภาษาอารบิคลงบนแผ่นดีวีดีและวีซีดีจำนวนมาก งานบทกวีของท่านอาจารย์จำนวนมาก ก็ได้แปลเป็นภาษาอารบิคด้วยเช่นกัน

ในระหว่างพิธีเปิดงานหนึ่งในผู้พูดคนสำคัญคือ อำเร่ มุสซ่า เลขาธิการใหญ่ของสมาพันธ์อาหรับ ซึ่งได้แสดงความหวังของเขาว่า งานหนังสือแฟรงค์เฟิร์ท 2547 จะเป็น “ขั้นตอนอันสำคัญแห่งชีวิต” ในความสัมพันธ์ระหว่างตะวันออกและตะวันตก และแม้ว่าจะมีความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรม อารยธรรมของมนุษย์ก็เป็น “หนึ่งเดียวกัน” นายมุสซ่ายังพูดต่อไปอีกว่า “ทั้งชาวตะวันออกที่เป็นอิสลาม และชาวตะวันตกที่เป็นคริสเตียน ต่างก็เชื่อในพระเจ้าที่มีองค์เดียว และเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวกัน” เขาได้แสดงความหวังว่า จากการพบปะนี้ จะทำให้สามารถลดความรุนแรง ของลัทธิ เชื้อชาติ และเรียกร้องให้ทุกคนกระทำร่วมกันในการต่อต้าน “พลังมืด” เพื่อที่จะสร้างอนาคตอันสดใสกว่า คำปราศรัยของเขาจบลงด้วยคำร้องที่แรงกล้า ให้ “ล้มกำแพงลง” และใช้โอกาสนี้ในการสร้างสวน ที่แบ่งปันกันแห่งวัฒนธรรมอันบานสะพรั่งและเต็มไปด้วยแสงสว่าง คำพูดของได้รับการตอบรับด้วยเสียงปรบมือกราวใหญ่ และสมาชิกบางคนของผู้ฟังที่พูดภาษาอาหรับ ก็ถึงกับซาบซึ้งใจจนหลั่งน้ำตา

ผู้ประทับจิตจากออสเตรีย เบลเยี่ยม อังกฤษ ฟอร์โมซา ฝรั่งเศส เยอรมนี และฮังการี ร่วมมือกันเพื่อทำให้การเข้าร่วมในงานของสมาคมอนุตราจารย์ชิงไห่นานาชาติ ประสบความสำเร็จ นอกจากนั้น ผู้ประทับจิตชาวมุสลิม 3 คนจากมอสโคว์ ปากีสถาน และซูดาน ซึ่งขณะนี้อาศัยอยู่ในยุโรป ก็ได้เดินทางมายังแฟงค์เฟิร์ท เพื่อช่วยแนะนำคำสอนของท่านอาจารย์ให้กับแขกที่พูดภาษาอาหรับ ผู้บำเพ็ญได้จัดตั้งกลุ่มทำงานหลายวัฒนธรรมจำนวนมาก และแม้ว่าสมาชิกของทีมบางคนไม่เคยพบกันมาก่อน และไม่สามารถสื่อสารกันได้เสมอในภาษาเดียวกัน ทุกคนก็ทำงานร่วมกันอย่างกลมเกลียวเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน

คูหาของสมาคมตั้งอยู่ในหมวดของศาสนาและจิตวิญญาณ ในหมู่ผู้จัดงานชาวเยอรมันและนานาชาติที่มีศาสนาต่างๆกันที่ไม่มีการตั้งชื่อ รวมไปถึงมุสลิม ฮินดู ซูฟี ศาสนาพุทธ และคริสเตียนมากมาย และกลุ่มทางจิตวิญญาณที่ไม่มีการตั้งชื่อบรรยากาศในหมวดนี้ สงบนิ่งและผ่อนคลาย และผู้ประทับจิตได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและลูกกวาดกันอย่างเปิดเผย กับผู้มาเยี่ยม และผู้จัดงานจากคูหาข้างๆ จุดสนใจของการจัดแสดงของสมาคมที่ได้ตกแต่งอย่างงดงาม จุดสนใจของการจัดแสดงของสมาคม ที่ได้ตกแต่งอย่างงดงามคือ จอวีดิทัศน์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีการฉาย วีดิทัศน์ปาฐกถาธรรมของท่านอาจารย์อย่างต่อเนื่อง ผู้มาเยี่ยมชมงานจำนวนมาก รู้สึกว่า สุภาพสตรีต่างประเทศผู้สวยงาม ซึ่งกำลังแสดงปาฐกถาธรรม ดึงดูดความสนใจ ซึ่งพวกเขามักจะหยุดชม และถามคำสอนของท่าน และขอสิ่งตีพิมพ์ของท่าน รวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับธรรมวิถีกวนอิม

ขณะที่อยู่ในงาน ผู้ประทับจิตชาวมุสลิมได้ทำความรู้จักกับตัวแทนของสำนักพิมพ์ ที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษในวรรณคดีอิสลาม ซึ่งได้สนทนาอย่างสนุกสนานกับผู้ประทับจิต และถามคำถามมากมายเกี่ยวกับการบำเพ็ญกวนอิม และมันเข้ากับศาสนาอิสลามได้อย่างไร เป็นเวลาหลายวัน ที่แขกชาวมุสลิมจากปากีสถานได้มาในงาน และได้เข้าร่วมในการเสวนาเหล่านี้อย่างกระตือรือร้น ในตอนเริ่มต้น ผู้จัดนิทรรศการชาวมุสลิมดูเหมือนจะไม่สนใจธรรมวิถี “ประหลาด” นี้ แต่เมื่อผู้ประทับจิตได้อธิบายว่า พวกเขาไม่ได้มาโฆษณาศาสนาใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นวิธีการแห่งการติดต่อโดยตรงกับพระอัลเลาะห์ ซึ่งจะทำให้พวกเขาเข้าใจถึงศาสนาของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น พวกเขาจึงสนใจมาก ชายชาวปากีสถานได้ขอข้อมูลที่จะหาได้ทั้งหมดในทันทีเกี่ยวกับธรรมวิถีกวนอิม วันต่อมา เขาได้กลับมาที่คูหาด้วยรอยยิ้มที่เบิกบานบนใบหน้าของเขาและพูดว่า “ผมได้อ่านหนังสือของคุณเมื่อคืนนี้ มันดีมาก!”

เพื่อที่จะเข้าถึงผู้พูดภาษาอาหรับให้มากเท่าที่สุดเท่าที่จะมากได้ ทีมทำงานจึงได้มอบใบปลิว และหนังสือตัวอย่างภาษาอาหรับ และข้อมูลอื่นๆ ให้กับแขกผู้มาเยือนที่คูหาอาหรับ ซึ่งมีหนังสืออาหรับมากกว่า 3,000 เล่ม และผลงานมากมายของนักประพันธ์และกวีชาวอาหรับจัดแสดง และมีการจัดแสดงทางวัฒน-ธรรมต่างๆ มากมาย แขกผู้มาเยือนที่พูดภาษาอาหรับส่วนใหญ่ ดีใจที่ได้รับข้อมูล โดยเฉพาะหนังสือตัวอย่างอันงดงามของท่านอาจารย์

โดยทั่วไปแล้ว ชาวมุสลิมปรารถนาในพระเจ้าอย่างจริงใจ และอุทิศตนอย่างลึกซึ้ง ในการดำเนินชีวิตทางด้านจิตวิญญาณตามคำสอนของคัมภีร์ศาสนา อิสลาม คือคัมภีร์อิสลามอัลกุรอ่านอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ประทับจิตจึงรู้สึกประทับใจในมาตรฐานแห่งคุณธรรมอันสูงของพวกเขา และประหลาดใจในฝีมือทางศิลปะอันยิ่งใหญ่และรสนิยมอันละเอียดอ่อน ที่แสดงในการฟ้อนรำและวรรณคดีภาษาอาหรับที่คูหาอาหรับ พี่ชายและพี่สาวได้จัดการแจกจ่ายข้อมูลเป็นภาษาอาหรับประมาณ 500 ชุด โดยหวังว่า เมล็ดพันธุ์แห่งแสงชุดแรกเหล่านี้ จะงอกงามในไม่ช้า

ในหมู่แขกนานาชาติที่มาเยี่ยมชมคูหา เป็นชายที่พูดภาษาอังกฤษ ซึ่งได้เปล่งร้องออกมาอย่างตื่นเต้นว่า “ผมได้เฝ้ามองหาสิ่งเหล่านี้!” และได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอย่างกระตือรือร้นเกี่ยวกับธรรมวิถีกวนอิม แขกชาวจีนจำนวนมากได้พูดกับผู้ประทับจิตด้วย รวมไปถึงผู้ชายที่มาจากเบอร์ลิน ซึ่งได้เข้าร่วมฟังปาฐกถาธรรมของท่านอาจารย์ที่นั่นในปี 2536 ชายชาวจีนอีกคนหนึ่งได้มาที่คูหากับครอบครัวทั้งครอบครัวของเขา รวมไปถึงพ่อแม่ของเขา และได้กลับมาในวันสุดท้ายของงาน เพื่อมาซื้อหนังสือและดีวีดีจำนวนมากของท่านอาจารย์

กล่าวโดยทั่วไปแล้ว เสียงตอบรับต่อข่าวสารของท่านอาจารย์ในงานนี้ เป็นในด้านบวกมาก ตัวอย่างเช่น ชายผู้หนึ่งได้วิจารณ์ว่า “ไม่ใช่ว่า ทุกอย่างที่เธอเห็นในงานนั้น ดี แต่สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่นั้น ดีมากๆ!” และแขกคนอื่นๆ มากมายได้อวยพรเราอย่างจริงใจ ให้ประสบแต่สิ่งที่ดีที่สุด

และนอกจากนี้ เพื่อที่จะให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นได้รับประโยชน์จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ผู้ประทับจิตจึงได้จัดสัมมนาทางจิตวิญญาณ 3 ครั้งในวันหยุดสุดสัปดาห์ สัมมนา 2 ครั้งเป็นภาษาเยอรมัน มีชื่อว่า “เห็นพระเจ้า และได้รับความสุขและสันติสุขภายใน” และอีกสัมมนาหนึ่งเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อว่า “มีประสบการณ์ในพระเจ้า” ในแต่ละสัมมนา ได้มีการเสนอบทความจากบทความที่ตัดทอนมาจากปาฐกถาธรรมของท่านอาจารย์ และหลังจากนั้น ก็ได้มีการสอนธรรมวิถีสะดวก ผู้ฟังในงานสัมมนา ซึ่งรวมไปถึงชาวมุสลิม มาจากหลายประเทศ และประมาณ 1 ใน 4 ของผู้ที่เข้าร่วมสัมมนา ได้อยู่ต่อหลังจากนั้นเพื่อเรียนวิถีสะดวก

นอกจากนี้ ผู้ประทับจิตได้จัดศูนย์ข้อมูลที่ชื่อว่า “สันติสุขเริ่มต้นภายในตัวเรา” ซึ่งตั้งอยู่ที่ 1 ในห้องประชุมนานาชาติ ใกล้กับส่วนที่เป็นของเอเชียในงาน กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการแสดงเดี่ยวไพพ์ (เครื่องดีดคล้ายน้ำเต้าของจีน) ตามด้วยการแนะให้รู้จักสมาคมและบริษัทพิมพ์ของสมาคม การอ่านบทกวีของท่านอาจารย์ และการแสดงธรรมด้วยเครื่องดนตรีไพพ์และโมโน-คอร์ด (เครื่องสายเดี่ยวของตะวันตกโบราณ) จากนั้นก็เป็นการฉายดีวีดีแนะนำท่านอาจารย์และดีวีดีปาฐกถาธรรมของท่าน ในการปาฐกถา ท่านอาจารย์ได้พูดถึงธรรมชาติแห่งสันติสุข และจะได้รับมันจากการนั่งสมาธิได้อย่างไร งานจบลงด้วยการแสดงไพพ์เดี่ยว ซึ่งเสียงอันรื่นเริงแต่สงบสุขของเครื่องดนตรีชนิดนี้ ได้ดึงดูดฝูงชนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นผู้จัดงานชาวเอเชียและแขกที่มาเยือนจากคูหาใกล้เคียง ซึ่งต่อมา บางคนก็ได้ไปยังโต๊ะข้อมูลเพื่อขอหนังสือตัวอย่างและข้อมูลอื่นๆ

ทั้งก่อนและในระหว่างงาน สิ่งมหัศจรรย์มากมายและสิ่งที่เยี่ยมยอด ซึ่งแสดงถึงพลังของท่านอาจารย์ ก็ได้เกิดขึ้นมากมาย เกินกว่าที่จะกล่าวในบทความนี้ ตัวอย่างเช่น ในวันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม ในช่วงเวลาของวันที่มีแขกจำนวนมากที่สุดมาเยี่ยมชมงาน ผู้ประทับจิตมีจำนวนไม่พอ ที่จะดูแลฝูงชนที่คูหาของสมาคม แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ครอบครัวผู้ประทับจิตชาวจีนก็ปรากฏตัวขึ้น และเริ่มแจกจ่ายหนังสือตัวอย่าง ใบปลิว และแคตตาล็อกอย่างกระตือรือร้น โดยที่ไม่มีใครขอให้พวกเขาทำเช่นนั้น ลูกสาวตัวน้อยของพวกเขามีความขยันเป็นพิเศษ เธอได้ขอใบปลิวเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องและไม่ได้หยุดทำงาน แม้กระทั่งเมื่อพ่อแม่ของเธอหยุดเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน

ในบ่ายวันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม เมื่องานหนังสือแฟรงค์เฟิร์ท 2547 ได้สิ้นสุดลง ผู้ประทับจิตต่างก็เหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความสนุก และมีจิตใจเบิกบาน ดังนั้น พวกเขาจึงจัดงานเลี้ยงเล็กๆ เพื่อเฉลิมฉลอง และในวันถัดจากวันงาน คนเป็นจำนวนมากก็ได้ติดต่อศูนย์ท้องถิ่น เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับท่านอาจารย์และธรรมวิถีกวนอิม ผู้ประทับจิตได้เข้าร่วมงาน ขอบคุณท่านอาจารย์ ที่ให้โอกาสแก่พวกเขาในการช่วยเหลือสิ่งชี้นำแห่งโลกอนาคตอันงดงามนี้ ณ ที่ซึ่งผู้คนทุกเชื้อชาติและศาสนา จะอยู่ร่วมกันในสันติภาพและความสามัคคีกลมเกลียว ในขณะที่ทำงานร่วมกันในงาน ผู้ประทับจิตรู้สึกได้อย่างจริงใจว่า ความฝันนี้กำลังเป็นรูปร่างขึ้นมาแล้ว เนื่องจากพวกเขาต่างก็มีจิตใจที่เป็นหนึ่งเดียวกัน!

 

การชุมนุมที่ช่วงโชติของจิตวิญญาณ, ศิลปะและวิทยาศาสตร์ ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ซินจู