การชุมนุมที่ช่วงโชติของจิตวิญญาน
ศิลปะและวิทยาศาสตร์ ณ อุทยาวิทยาศาสตร์ซินจู

เทคโนโลยีที่กาวหน้า ต้องถือท้ายฝ่าคลื่นลม

ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่เคยกล่าวว่า จิตวิญญาณและเทคโนโลยีต้องพัฒนาไปด้วยกัน มนุษย์จึงจะมีพลังพอที่จะมาใช้ปัญญาที่มีอยู่ ดังนั้น ศูนย์ซินจู ฟอร์โมซา จึงได้จัดงาน “การสัมมนาเกี่ยวกับจิตวิญญาณและเทคโนโลยี” ขึ้นเป็นพิเศษเมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่เมืองเทคโนโลยีซินจู ในปีทองปีแรก ที่การชำระล้างและยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้น เพื่อสัมมนาโดยใช้ทฤษฎีกับการพิสูจน์ความจริง และงานสัมมนาครั้งนี้ก็ประกอบด้วย 2 ส่วนนี้เช่นกัน: ด้านทฤษฏี ได้เปิดวีดิทัศน์ ที่ท่านอาจารย์กล่าวเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนดลยีกับจิตวิญญาณ การบรรยายหัวข้อเรื่องเทคโนโลยีกับจิตวิญญาณ ดำเนินไปในลักษณะการสัมมนาและตอบคำถาม มีการจัดแสดงงานศิลปะของท่านอาจารย์ด้วย เพื่อเป็นการพิสูจน์หลักฐานถึงผลบำเพ็ญทางจิตวิญญาณ ได้มีการสอนวิถีสะดวกหลังจากมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน งานสัมมนาครั้งนี้ ยึดจิตวิญญาณเป็นหลัก เทคโนโลยีกับงานศิลปะเป็นงานสนับสนุน บวกกับด้านทฤษฎีกับการพิสูจน์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญจากตัวตนที่แท้จริงที่มีอยู่ภายใน

สถานจัดงานสัมมนาอยู่ที่ห้องประชุมนานาชาติห้องสมุดเฮาหยาน มหาวิทยาลัยคมนาคมของรัฐ (NCTU) รอบข้างมีมหาวิทยาลัยชิงหัว ห้องทดลองระดับชาติหลายประเทศ และอุทยานวิทยาศาสตร์ซินจู ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เพื่อนบำเพ็ญผู้จัดงานขณะที่ประชุมเรื่องสถานที่จัดงานอยู่ บังเอิญพบกับอธิการบดีของมหาวิทยาลัยนั้นคือ ท่านจางจุ้นเอี้ยน ท่านอธิการบดี จางจึงรับปากอนุญาตให้เช่าสถานที่ทันที

โปสเตอร์และแผ่นปลิวที่ใช้ประชาสัมพันธ์งานนี้ เป็นภาพนั่งสมาธิของท่านอาจารย์ล้อมรอบด้วยจานบินกับโคมไฟอายุยืนตัดกับภาพกราฟิคที่แสดงถึงระบบสุริยะกับแผงวงจนไฟฟ้า เพื่อเป็นการสะท้อนถึงยุคทองที่จิตวิญญาณกับเทคโนโลยีต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน เมื่อกำหนดภาพโปสเตอร์แน่นอนแล้ว เพื่อนบำเพ็ญที่ร่วมจัดงานท่านหนึ่งต้องแปลกใจมาก ที่เห็นภาพจานบินในภาพเหมือนกับ ที่เขาเห็นกับตาเมื่อ 30 ปีก่อน เขาร้องออกมาว่า ช่างวิเศษจริงๆ พวกเรานอกจากแจกจ่ายใบปลิว ที่คั่นหนังสือ กับบัตรเชิญให้กับประชาชนแล้ว ยังอาศัยแพร่ข่าวทางสถานีวิทยุ เคเบิลทีวี และการประกาศข่าวด้วยอินเทอร์เน็ตทั่วโลก กับทางอีเมล์ เพื่อให้ชาวเทคโนโลยีกับนักวิชาการสามารถทราบข่าวจากอินเทอร์เน็ตจากเครือข่ายสถานีวิทยุบีบีเอส ที่มีคนฟังมากที่สุด นอกจากนี้ยังได้มีการจัดรายการสด โดยให้ผู้ฟังโทรเข้าถามได้พร้อมทั้งการแจกหนังสือในรายการวิทยุเธอกับฉัน ซึ่งเป็นรายการยอดฮิตในซินจู เพื่อที่จะส่งข่าวสารที่ช่วงโชตินี้ให้ถึงประชาชนส่วนใหญ่

ประชาชนมากมายหลังจากทราบข่าวการจัดงานแล้ว ต่างโทรศัพท์ไปสอบถามที่แผนกหนังสือศูนย์ซินจู มีผู้สนใจการสอนนั่งสมาธิมากที่สุด แสดงให้เห็นว่า ในยุคทองนี้ ชาวโลกสนใจการดำรงชีวิตแห่งจิตวิญญาณมาก

นิทรรศการแสดงศิลปะจากสวรรค์
และของว่างมังสวิรัติเลิศรส

 

Mr. Chen An-bin, director of NCTU’s Institute of Information Management	Accompanied by fellow initiates, Mr. Chang Chun-yen (middle), president of NCTU, appreciates Master’s art exhibit.

ก่อนวันงาน 2 วัน พื้นที่ซินจู เริ่มมีฝนตกพรำๆ เมื่อถึงวันงานตอน 10 โมงเช้า ฝนหยุด กลายเป็นวันที่ลมเย็น แสงอาทิตย์อบอุ่น ท้องฟ้าโปร่งใส คล้ายกับเป็นฝนอัมฤตที่มาชำระล้างบรรยากาศพื้นที่ซินจู ให้สะอาด และให้อากาศที่อบอุ่น มาต้อนรับงาน เพื่อนบำเพ็ญไปจัดสถานที่ที่ห้องสมุดแต่เช้า ผู้เข้าร่วมทีมงานมากกว่าที่เคยกำหนดมาก่อน วันนั้นนอกห้องสมุด ได้แขวนแผ่นผ้าที่สะดุดตา ตลอดทางก็มีการปักธง ดึงดูดสายตาครูและศิษย์ในมหาวิทยาลัย หน่วยงานจัดนิทรรศการของห้องสมุด ได้เดินทางมาชมโดยเฉพาะ ชมว่า ต้องใช้เวลา 2 วัน จึงจะสามารถจัดงานเสร็จ แต่เพื่อนบำเพ็ญจัดเสร็จเพียงใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

บ่าย 3 โมงวันนั้น เริ่มด้วยการเปิดงานศิลปะที่อยู่ห้องโถงนอกห้องประชุม สถานที่สวยงามสง่า จัดแสดงภาพวาด โคมไฟจักรพรรดิ กับหนังสือท่านอาจารย์ ในงานที่เพื่อนบำเพ็ญหลายสวมใส่เสื้อผ้าจากสวรรค์กับเครื่องประดับจากสวรรค์ เดินปะปนอยู่กับแขกที่มาร่วมงาน จอภาพขนาดยักษ์ที่อยู่ในห้องประชุมเปิดฉายดีวีดี ที่ท่านอาจารย์อธิบายถึงสัญลักษณ์ที่เป็นนัยสำคัญในงานศิลปะของท่าน ดึงดูดผู้ชมที่ชมงานแสดงแล้วเข้าสู่ภายใน ในงานได้จัดของว่างมังสวิรัติ เพื่อให้แขกชิมด้วย โดยอภินันทนาการจากเพื่อนบำเพ็ญจากศูนย์อื่น เป็นอาหารคุณภาพระดับ 6 ดาว ในงานเต็มไปด้วยบรรยากาศที่สูงส่ง ดึงดูดผู้คนมายืนชม จนลืมกลับบ้าน

ครูกับศิษย์ในมหาวิทยาลัยกับผู้ชมภายนอก เดินทางมาชมโดยเฉพาะ ประกอบด้วยอาจารย์ที่สอนศิลปะ และมีครูพาลูกศิษย์เป็นกลุ่มมาชมด้วย ในตอนบ่ายผู้อำนวยการสถาบันการจัดการข้อสนเทศ NCTU คุณ เฉินอันอู่ มาชมงานจัดแสดงศิลปะกับในขณะที่ชมดีวีดีการแสดงธรรมของท่านอาจารย์ที่จวี้ตั้น เมืองเถาหยวน ปี 2542 เขากล่าวว่า “ผมรู้สึกอัศจรรย์ใจมากที่เห็นผู้ฟังหลายหมื่นคนเช่นนี้” และกล่าวว่า จะมาร่วมงานสัมมนาในตอนเย็นอีก หัวหน้าบริษัทเทคโนโลยี คุณเจิ้น ขณะที่เรียนหนังสืออยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา เคยรู้จักเพื่อนบำเพ็ญแนะนำท่านอาจารย์ให้เขา เขาเคยไปเยี่ยมศูนย์ซันโฮเซ่ สหรัฐอเมริกา วันนั้น เขาก็มาชมงานด้วย หัวหน้าศูนย์สัมมนา พัฒนาเทคโนโลยีบริษัทแห่งหนึ่ง คุณหวาง ได้ฝึกการวาดภาพมาตั้งแต่เด็ก เขามาชมภาพวาดของท่านอาจารย์อย่างตั้งอกตั้งใจเท่านั้นยังไม่พอ ยังไปเปิดดูหนังสือภาพวาดด้วย เขากล่าวว่า ท่านอาจารย์วาดภาพอย่างละเอียด ภาพก็สวยงามมาก ท่านอธิการบดีวันนั้นต้องพาคณะนักวิชาการจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้ามาชมงานข้างใน เพื่อนบำเพ็ญรับเชิญชวนพวกเขาเข้าร่วมงานสัมมนาในวันต่อไปด้วย

คำสอนจากสวรรค์และการนั่งสมาธิ
ก่อให้เกิดปัญญา

“งานสัมมนาเกี่ยวกับจิตวิญญาณและเทคโนโลยี” ที่จัดขึ้นตอนกลางคืน เป็นหัวใจของการจัดงานครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วยอาจารย์และศิษย์ในมหาวิทยาลัย โรงเรียนระดับอุดมศึกษาที่อยู่ใกล้ๆ หลายแห่ง หน่วยงานสัมมนา ห้องทดลองในประเทศ สถานที่ราชการ เจ้าหน้าที่และศิษย์ อาจารย์ บริษัทหลายสิบแห่ง พร้อมประชาชนที่อยู่ในละแวกนั้น งานสัมมนาได้รับการตอบสนองอย่างคึกคัก ที่นั่ง 400 ที่ในห้องประชุมเกือบเต็มหมด ประกอบด้วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยคมนาคม คุณ จางจุ้นเอี้ยน กับภรรยา ผู้อำนวยการ คุณเฉินอันอู่ กับคุณ จางกั๋วเสียง ครูใหญ่สถานบันการจัดการไคหนัน ต่างๆ เป็นต้น อธิการบดี คุณจาง มากับภรรยาก่อนเปิดงาน ท่านอธิการบดีไปชมดีวีดี งานดนตรี “โลกหนึ่งเดียว...แห่งสันติภาพด้วยดนตรี” ในห้องประชุม ส่วนภรรยาออกไปชมงานศิลปะด้านนอก

งานสัมมนาดำเนินไปอย่างสบายๆ จากการแนะนำของผู้จัด 2 ท่าน ก่อนอื่นเชิญอธิการบดีมหาวิทยาลัยคมนาคมขึ้นมากล่าวคำเปิดงาน ท่านมีชื่อเสียงในวงการ อุตสาหกรรมไฟฟ้ากึ่งตัวนำ และเป็นสมาชิกสถาบันวิศวกรต่างประเทศ (U.S.National Academy of Engineering Associate) กับสมาชิกสถาบันศูนย์สัมมนา ท่านอธิการบดีกล่าวว่า “หลังจากนั่งสมาธิแล้ว จิตใจก็ใสสว่างขึ้น สะอาดขึ้น จิตใจที่ใสสะอาดสามารถแก้ปัญหาของตนเอง” จากนั้น ฉายภาพยนตร์แนะนำประวัติท่านอาจารย์ กับดีวีดี ที่ท่านอาจารย์ไปแสดงธรรมที่อังกฤษ ปี 2542 [จงมีความกล้าหาญต่อชีวิต] ระหว่างแสดงธรรม ท่านอาจารย์กล่าวถึงความสัมพันธ์ของเทคโนโลยี และอธิบายถึงความเจริญทางวัฒนธรรมแต่ก่อนว่า เหตุใดจึงล่มสลายไป

จากนั้น ต่อด้วยการบรรยายอีก 2 รอบ รอบแรกคือ หัวหน้าแผนกควบคุมคุณภาพบริษัท ยูไนเต็ดไมโครอีเล็คตรอน ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชิพที่ใหญ่ที่สุดในโลก คุณโจวเอ้อหนัน ด้วยหัวข้อเรื่อง “ความสัมพันธ์กับความเอื้ออำนวยระหว่างจิตวิญญาณกับเทคโนโลยี” “จากข้อสังเกตถึงข้อมูลการเปลี่ยนแปลงอย่างรวมเร็วของเทคโนโลยี” เขากล่าวว่า “เราสามารถค้นพบผลของมันจากเวลาที่ผ่านไปหลายปี” “งานวิจัยมักพิสูจน์ได้ในสิ่งที่เป็นประสบการณ์ของผู้บำเพ็ญทางจิตวิญญาณในสมัยโบราณ” คุณโจว ยังได้กล่าวเน้นว่า หากลูกศิษย์บำเพ็ญได้ตามที่อาจารย์สอนไว้ ก็จะสามารถได้รับประสบการณ์เช่นเดียวกันกับที่อาจารย์ได้รับตามระดับนั้นๆ ซึ่งคล้ายคลึงกับวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เขาได้อ้างอิงผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย โดยดอกเตอร์แอนดรู นิวเบิร์ก มายืนยันถึงประสบการณ์จากการบำเพ็ญ สามารถนำมาตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ได้ เขายังกล่าวอีกว่า การค้นพบหลายอย่าง กับการคิดค้นส่วนมาก มาจากจินตนาการในฝัน และสิ่งเหล่านี้เกือบทั้งหมด มาจากการบรรลุผลสำเร็จของเหล่านักวิทยาศาสตร์นักบุญลงมาจากสรวงสวรรค์ เขาได้เน้นเรื่องการขัดต่อวัฒนธรรมที่ใช้เทคโนโลยี ทำให้เกิดอันตรายไปทั่วโลก โดยยกวิธีแก้ไขจากความคิดเห็นทางด้านจิตวิญญาณ สุดท้าย เขาได้เปรียบเทียบด้านศาสนา และกล่าวถึงองค์ศาสดาทุกศาสนา ต่างได้บรรลุการรู้แจ้งจากภายในด้วยการปฏิบัติ ธรรมวิถีกวนอิม หัวหน้าโจว ยกคำพูดของอัลเบิร์ต ไอนสไตน์ มากล่าวสรุปว่า “ถ้าวิทยาศาสตร์ปราศจากศาสนา ก็เหมือนคนขาพิการและหากศาสนาปราศจากวิทยาศาสตร์ ก็เหมือนคนตาบอด!”

ผู้บรรยายท่านที่ 2 คือ เพื่อนประทับจิตอดีตประธานกรรมการเทคนิคเทคโนโลยีความมั่นคงของเยอรมัน ปัจจุบันเรียนปริญญาเอก สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยชิงหัว คุณหลิวเพ่ยซิน หัวข้อเรื่องที่ศิษย์ผู้พี่ชายหลิวจะบรรยายคือ “การผ่อนคลายจะช่วยเพิ่มพูนประสิทธิภาพการเรียนรู้และความสุขจะช่วยส่งเสริมความสามารถภายใน” เขาเริ่มที่คลื่นสมอง โดย “เรียนรู้ระบบจิต” มาอธิบายว่า ทำอย่างไรจึงจะเพิ่มการเรียนรู้ประสิทธิภาพกับพัฒนาปัญญาที่แฝงไว้ เขาชี้ให้เห็นว่า “ความตั้งใจ” กับ “บุคลิกที่พยายามโดยตรง” สามารถเพิ่มการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพได้ เพราะว่า “ความตั้งใจ” สามารถทำให้คลื่นสมองที่ไม่คงที่ “เบต้า” เปลี่ยนเคลื่อนสู่ชั้นลึกของคลื่น “อัลฟ่า” สามารถเพิ่มพลังการติดสินใจกับการเข้าใจ มากไปกว่านั้นคือ ประสิทธิภาพการเรียนรู้ก็จะได้รับการแก้ไขอย่างชัดเจน ส่วน “บุคลิกที่พยายามโดยตรง” สามารถขจัดอุปสรรคการเรียนรู้ ขจัดจิตใต้สำนักที่เป็นลบ หันมาใช้การอธิบายในสภาพที่เป็นทางตรง จะเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ ศิษย์ผู้พี่ชายหลิว ยังอธิบายถึงการใช้คลื่นสมองพัฒนาปัญญาที่มีอยู่ภายใน สุดท้าย เขาได้ชี้ถึงประสบการณ์ของตัวเองว่า ธรรมวิถีกวนอิมสามารถพัฒนาคลื่นสมอง ไปพัฒนาพรสวรรค์ได้ ทำให้คนเป็นสุข เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้

เวลาตอบคำถาม ธรรมทูตกวนอิมกับเพื่อนบำเพ็ญเป็นผู้ตอบคำถามอย่างละเอียดให้กับผู้เข้าชม จากนั้นทำการพิสูจน์งานสัมมนา สอนนั่งสมาธิวิถี-สะดวก โดยธรรมทูตกวนอิม เพื่อให้ผู้เข้าชมที่มีความจริงใจได้พิสูจน์ วันนั้น มีผู้เข้าชมที่มีอายุและอาชีพแตกต่างกัน หลายสิบคนสมัครเรียนวิถีสะดวก

เมื่อเห็นห้องสมุดเฮาหยาน สะสมหนังสืออาจารย์เพียงส่วนน้อย ศูนย์ซินจู จึงได้มอบหนังสือมากกว่านี้ให้กับห้องสมุดหลังงานจบลง เพื่อให้ผู้อ่านได้สัมผัสคำสอนท่านอาจารย์มากขึ้น

ปัญญาเกิดขึ้นจากคำสอนที่สูงสุดและแขกผู้มีเกียรติต่างตอบสนองต่อความรักที่ศักดิ์สิทธิอย่างศรัทธาแรงกล้า

สำหรับคุณครูใหญ่ จึงกั๋วเสียง ผู้ซึ่งค้นคว้าเรื่องพัฒนาการของสมองมนุษย์ มีความสนใจการบรรยายของเพื่อนบำเพ็ญ หลิวเพ่ยซิน ได้บันทึกหัวข้อเรื่องการบรรยายไว้ในสมุดบันทึกของเขา คุณเฉินอันอู่ หัวหน้าพัสดุได้เคยศึกษาวัชระสูตรมาหลาย 10 ปี ได้คุยกับเพื่อนบำเพ็ญเป็นเวลานาน เขาชมเชยความวิเศษของธรรมวิถีกวนอิม และยกย่องท่านอาจารย์ผู้ประเสริฐ ที่มาสอนชาวโลก เพื่อยกระดับจิตวิญญาณ คุณแม่ของศิษย์ผู้พี่หญิงท่านหนึ่ง สัมผัสคำสอนท่านอาจารย์มาเป็นเวลา 10 กว่าปีก็ยังไม่สนใจ คืนนั้น กลับอยู่เรียนวิถีสะดวก วันรุ่งขึ้นชวนลูกสาวฉลองการเริ่มต้นบำเพ็ญด้วยกัน เจ้าหน้าที่ห้องประชุมไม่เพียงให้การช่วยเหลือทั้งการจัดเตรียมงาน และช่วยเหลืองานระหว่างดำเนินงาน ขณะเดียวกันก็มีความสนใจคำสอนของท่านอาจารย์ด้วย มักจะจ้องมองการแสดงธรรมของท่านอาจารย์บนจอภาพเสมอ ผู้มีความจริงใจอย่างเขา หลังจากงานเสร็จสิ้นลง ก็ได้สมัครเรียนวิถีสะดวก เข้าสู่กลุ่มการบำเพ็ญ

ผู้เข้าชมท่านหนึ่งที่อาศัยอยู่ข้างหาวิทยาลัยคมนาคมเมื่อ 15 ปีก่อน ลาออกจากงานเพื่อมาศึกษาศาสนากับการบำเพ็ญ หลังจากที่เขาเรียนวิถีสะดวกวันนั้นแล้ว ได้นำหนังสือท่านอาจารย์กับวัชรสูตรมาเปรียบเทียบกัน ยืนยันว่าธรรมวิถีกวนอิมของท่านอาจารย์ ที่ท่านอาจารย์ถ่ายทอด เป็นธรรมวิถีที่ไปสู่แห่งสัจธรรมอย่างแท้จริง ผู้ชมอีกท่านหนึ่งกล่าวว่า การบรรยายทั้ง 2 รอบมีความหมายทางจิตวิญญาณมาก สามารถทำให้คนจิตกระจ่าง ดังนั้น เธอไม่เพียงสมัครเรียนวิถีสะดวก ต่อมายังได้มาขอวีดิทัศน์ม้วนที่จัดงานวันนั้นด้วย เพื่อนบำเพ็ญที่เรียนวิถีสะดวกท่านหนึ่ง มีประสบการณ์ขณะเจ็บป่วยปีที่ผ่านมา ในฝัน เขาเห็นนิรมาณกายอาจารย์มาช่วย ในวันงานก็เห็นจิตวิญญาณของเพื่อนบำเพ็ญใสสะอาด และหลังจากงานจบลง ในฝัน เขาเห็นธรรมบาลออกมาจากร่างของเพื่อนบำเพ็ญในลักษณะที่เมตตาและน่าเกรงขาม และได้ช่วยเขาแก้ไขอุปสรรค หลายคนมีการสอนหรือต้องเดินทาง ไม่สามารถมาเข้าร่วมงานได้ พวกเขาต่างมาสอบถามเพื่อนบำเพ็ญว่า มีการจัดงานแบบนี้อีกในอนาคตหรือไม่

บทสรุป:จิตวิญญาณใหม่ได้ตื่นขึ้น

ปี 2531 ท่านอาจารย์เคยมาแสดงธรรมที่หาวิทยาลัยคมนาคม หลังจากนั้น 16 ปี ศูนย์ซินจู มาจัดงานสัมมนากับการจัดแสดงงานศิลปะ เพื่อรวมจิตวิญญาณ เทคโนโลยี ศิลปะ มาเผยแพร่ข่าวสารความรักอันประเสริฐของท่านอาจารย์ที่หาวิทยาลัยคมนาคมนี้อีก กระตุ้นให้ประชาชนแสวงหาชีวิตแห่งจิตวิญญาณ การตอบสนองมีขึ้นที่เมือง จู๋เชี่ยน อย่างต่อเนื่อง จนเป็นเวลานานเท่านาน! งานครั้งนี้ดึงดูดบคคลสำคัญในวงการนักวิชาการกับเทคโนโลยีมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และหมายถึงชาวโลกให้การยอมรับความคิด ที่จิตวิญญาณกับเทคโนโลยีต่างพึ่งพาซึ่งกันและกัน จากการจัดงานในครั้งนี้ พวกเราได้โปรยเมล็ดจิตวิญญาณให้กับวงการเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อให้จิตวิญญาณเป็นผู้นำเทคโนโลยี และหวังว่า สามารถนำความสุขมาให้กับมวลมนุษย์มากขึ้น

 

รายการโทรทัศน์ “การเดินทางผ่านอาณาจักรอันสุนทรีย์” ครั้งที่ 116 ของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมซันทีวี ได้บันทึกงานนี้ไว้อย่างดีเยี่ยม ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา  http://godsdirectcontact.org.tw/eng/hichannel/index.htm
(ภาษาอังกฤษ + อักษรบรรยายภาษาจีน)

แนวหน้า: สิ่งอันงดงามที่แสดงถึงอนาคต-แสงของท่านอาจารย์ส่องสว่างสุกใสในงานหนังสือแฟรงเฟิร์ท

Related Articles:
	คติพจน์: การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ต้องสมดุลกับปัญญาทางจิตวิญญาน
	ไข่มุกแห่งปัญญา: ธรรมวิถีกวนอิมเป็นวิทยาศาสตร์ที่สูงและแม่นยำ