ถ: ท่านอาจารย์ หลังจากได้ทำสมาธิเป็นเวลา 24 ปี ชีวิตการแต่งงานของฉันได้สิ้นสุดลง ฉันรักสามีของฉัน และมันทำให้ฉันเศร้า ทำไมสิ่งนี้จึงได้เกิดขึ้น?
อ: นั่นเป็นการทำสมาธิชนิดไหน? 24 ปีใช่ไหม? อืม นั่นไม่ใช่ความผิดของฉัน ตอนนั้นฉันยังไม่ได้อยู่ที่นั่น (ท่านอาจารย์และผู้ฟังหัวเราะ) ฉันเพิ่งอยู่ที่นี่ได้เพียง 15 ปี ประมาณนั้น คือว่าการทำสมาธิไม่ใช่สาเหตุของการแยกกัน การแยกกันมาจากส่วนหนึ่งของผลกรรม วันนี้เธอเห็นดอกไม้สวยงามเหล่านี้ที่นี่ พรุ่งนี้มันก็ตายไป ถ้าไม่ก็อาทิตย์หน้า ทุกสิ่งทุกอย่างดูแลตัวของมันเองเมื่อถึงเวลา รวมทั้งชีวิตของเราด้วย เราจะไม่มีชีวิตอยู่ตลอดไป ดังนั้นหากชีวิตการแต่งงานคงทนอยู่จนถึงสิ้นสุดของชีวิตเรา อย่างนั้นมันก็ดี มันก็อีกแค่ไม่กี่ทศวรรษเท่านั้นเอง หากมันกินเวลาถึง 24 ปีหรือ 44 ปี มันก็ไม่แตกต่างอะไรกันมากนัก มันเป็นเพียงตัวเลข หากการแต่งงานยืนยาวหรือไม่ยืนยาว มันก็ไม่ได้พิสูจน์อะไร ให้รีบไปหาผู้ชายคนใหม่อย่างเร่งด่วน! (หัวเราะและปรบมือ)

ถ: ท่านอาจารย์ที่รัก ฉันอายุ 14 ปี แม่ของฉันได้ป่วยเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันรู้ว่า ฉันควรจะเข้มแข็ง แต่หลายๆ ครั้ง มันยากสำหรับฉันมาก ท่านมีข้อแนะนำอย่างไรบ้าง?

อ: ไม่มากนัก ฉันรู้สึกเสียใจกับเธอมาก เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่ง เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง ทำต่อไป! สวดมนต์ต่อพระเจ้าเพื่อขอความช่วยเหลือเพื่อความแข็งแกร่งภายในประทับจิต แล้วก็ปฏิบัติธรรม นั่นจะช่วยให้เธอรู้สึกเยี่ยมยอดเหมือนสตรีผู้มีพลังเหนือมนุษย์!

ถ: ท่านอาจารย์ ทำไมจึงมีข้อจำกัดทางอายุสำหรับการทำประทับจิต? เป็นเพราะพวกเขาไม่เหมาะหรืออยู่เหนือขอบเขตของการประทับจิต?

อ: พวกเขาไม่มีเวลาพอที่จะจบหลักสูตร ถ้าพวกเขาเป็นคนสูงอายุ และถ้าเด็กๆ อายุน้อยเกินไป พวกเขาก็ต้องได้รับคำอนุญาตจากพ่อแม่ของเขา เพื่อที่พ่อแม่จะได้ช่วยเขาได้ เพื่อที่จะไม่ขัดต่อความประสงค์ของพ่อแม่ โลกก็เป็นเช่นนี้ มันเป็นไปตามกฎแห่งวัตถุ

ถ: หากฉันรับการประทับจิตวันนี้ และด้วยเหตุผลใดก็ตาม ฉันไม่สามารถปฏิบัติได้ หรือฉันหยุด จะมีผลด้านร้ายกับฉันอย่างไรบ้าง?
อ: เมื่อเธอไม่ได้ปฏิบัติต่อไป นั่นคือสิ่งที่แย่ที่สุดที่จะสามารถเกิดกับเธอได้ หากเธอแต่งงานกับใครสักคนหนึ่งแล้วหย่า จะเกิดอะไรขึ้น? นั่นก็คือเธอหย่า!
ถ: ท่านอาจารย์ ฉันจะทราบได้อย่างไรว่า ฉันได้พัฒนาทางด้านการปฏิบัติจิตของฉัน?
อ: เธอจะรู้เอง เธอจะรู้เอง เหมือนเมื่อเธอโตขึ้น และเธอรู้ว่า เธอได้โตขึ้น
ถ: ท่านอาจารย์ที่รัก การรู้แจ้งคือการใช้ชีวิตไปตามความประสงค์อันเดียวกันกับพระเจ้าหรือไม่? มันเหมือนกับละทิ้งเจตนาแบบมนุษย์ของฉันให้กับพระเจ้าและเหมือนมีชีวิตตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นใช่หรือไม่?
อ: ใช่ มันคือสิ่งเดียวกัน
ถ: อะไรเป็นสิ่งหลักที่หยุดยั้งวิถีของเราที่จะไปสู่การหลุดพ้น?
อ: ตัวของเราเอง เมื่อเราต้องการปฏิบัติ ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเราได้ เมื่อเราไม่ต้องการปฏิบัติ ทุกๆ สิ่งก็สามารถหยุดเราได้
ถ: ท่านอาจารย์ ฉันเป็นคาทอลิก ทีนี้ฉันจะยังคงสามารถดำรงความเชื่อ การปฏิบัติและการสวดมนต์ แล้วยังคงรับการประทับจิตได้หรือไม่?
อ: ฉันก็เหมือนกัน! ฉันก็เป็นคาทอลิก!
ถ: ท่านอาจารย์ หากฉันรับการประทับจิตวันนี้ ฉันยังคงสามารถทำอาหารเนื้อสัตว์ให้กับลูกๆ ของฉันรับประทานได้หรือไม่? มันโอเคไหม?
อ: ได้ หากเธอสามารถทนกลิ่นได้หลังจากระยะหนึ่ง
ถ: มันมีกฎของเหตุและผลในจักรวาลนี้ ดังนั้นมันเป็นไปได้หรือที่จะขจัดการกระทำผิด ที่เราได้ก่อไปแล้ว?
อ: ไม่ได้ เธอไม่สามารถขจัดมันได้ แต่เราสามารถลดผลต่างๆ โดยความแข็งแรงและความรู้ทางด้านจิตวิญญาณ และเราสามารถหลีกเลี่ยงการกระทำ ความผิดพลาดแบบนี้อีกในอนาคต
ถ: ท่านอาจารย์ ฉันได้ศึกษาตามอาจารย์ลัทธิเซนที่หลุดพ้นแล้วท่านหนึ่ง อะไรคือข้อแตกต่างระหว่างท่านและอาจารย์ท่านนั้น? ฉันสามารถศึกษากับอาจารย์หลายๆ คนในเวลาเดียวกันแล้วยังรู้แจ้งได้หรือไม่?
อ: หากเธอมีเวลาเพียงพอ ฉันไม่รู้ว่า อาจารย์ผู้นี้ได้หลุดพ้นแค่ไหน เธอควรถามเขาว่า เขาสามารถนำเธอไปสู่อาณาจักรที่สูงสุดและอยู่กับเธอตลอดทาง จากด้านระดับกายภาพขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น เธอไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ แต่ถ้าคำตอบคือไม่ใช่ เธอควรจะมาอย่างเร็ว
ถ: ท่านอาจารย์ ฉันได้เห็นตัวอย่างต่างๆ ของผู้สอนหลายคน แสดงให้ผู้เรียนเห็นถึงแสงและเสียง และผู้เรียนเหล่านี้ไม่ได้รับการชี้นำที่ถูกต้อง นักเรียนเหล่านั้นได้หลงทางและคล้ายกับเกือบเสียสติ ท่านมีความมั่นใจอะไรที่จะให้ว่า การชี้นำของท่านดี?
อ: เธอสามารถถามคนของฉัน ถ้าพวกเขายังคงอยู่ดี อย่างนั้นเธอคงรู้ได้ (หัวเราะ) เธอรู้จักต้นไม้จากผลของมันหรือไม่ ไม่หรือ?
ถ: ในหนังสือ “บทสนทนากับพระเจ้า” (Conversation with God) มีกล่าวไว้ว่า โลกคือสวรรค์ เรากำลังอยู่ในสวรรค์ และถ้าเราคิดว่า เราต้องไปสวรรค์ เราได้วางตนเองในระดับทีต่ำกว่าและจะไม่มีที่ไป นอกจากที่นี่ ดังนั้นอะไรคือความแตกต่างระหว่างที่นี่และสวรรค์ เพราะว่าเราถูกวางไว้ที่นี่เพื่อจะได้มีประสบการณ์ทุกๆ สิ่ง สิ่งที่ดี สิ่งที่เลว ใช่หรือไม่?
อ: ใช่ นั่นเป็นความจริง แต่เธอรู้จักสวรรค์ที่นี่แล้วหรือ? เธอสามารถนั่งอยู่ที่นั่นแล้วเห็นสวรรค์ได้หรือไม่? ถ้าเธอไม่สามารถเห็นสวรรค์ได้ ฉันต้องแสดงให้เธอรู้ว่าอย่างไร มันเป็นความจริง สวรรค์ เธอสามารถเห็นมันได้จากที่นี่ ตรงนี้ แต่เธอต้องรู้ว่าทำอย่างไร อยู่ที่ไหนก็สามารถเห็นมันได้ ในห้องน้ำ ในเครื่องบิน ในสวนสาธารณะ หรือที่ไหนก็ได้ ในซุปเปอร์มาร์เก็ต มันเป็นความจริง แต่เธอจะต้องรู้ว่าจะต้องมองที่ไหน และนั่นก็คือสิ่งที่ฉันมาที่นี่ เพื่อที่จะแสดงให้เธอได้รู้ (ปรบมือ!!!)
ถ: ท่านอาจารย์ ฉันเป็นนักเรียน และสาขาของฉันคือพยาบาลและศัพท์วิชาการทางการแพทย์ ฉันถูกกำหนดให้ศึกษาด้านการทดลองชีววิทยาเพื่อสามารถจบสาขานี้และได้ปริญญา เราฆ่าสัตว์ต่างๆ และพืชบางชนิดเพื่อที่จะมีประสบการณ์แล้วก็เปรียบเทียบกัน การฆ่าสัตว์เป็นสิ่งที่โหดร้ายทารุณ ฉันไม่สามารถทนเห็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนฆ่าสัตว์ต่างๆ มันมีผลต่อการทำสมาธิของฉันหรือไม่? และมันจะมีผลต่อการทำสมาธิในอนาคตของฉันหรือไม่? ฉันจำเป็นต้องเปลี่ยนสาขาของฉันหรือไม่เพื่อหลีกเลี่ยงการฆ่าสัตว์ต่างๆ ฉันต้องการที่จะจบสาขาวิชานี้ของฉัน
อ: หากเธอต้องการที่จะจบสาขาวิชานี้ เธอได้ตอบคำถามตัวเธอเองแล้ว ถ้าเธอไม่ต้องการที่จะฆ่าสัตว์ต่างๆ ก็จงอย่าฆ่า หากเพื่อนร่วมชั้นของเธอฆ่าพวกมัน นั่นเป็นปัญหาของพวกเขา เธอไม่สามารถกำหนดให้ใครทำสิ่งที่เธอต้องการได้ เธอทำแต่ในสิ่ง ที่เธอต้องการ ให้เดินหน้าต่อไปกับการศึกษาของเธอและบอกพวกเขาว่า เธอไม่ชอบที่จะฆ่าสัตว์ต่างๆ แต่เธอจะแค่ดูเท่านั้น
ถ: ท่านอาจารย์ที่รัก ท่านคิดอย่างไรกับการรับประทานยาที่ก่อให้เกิดอาการเพ้อฝันเพื่อให้ได้ประสบการณ์ด้านจิตวิญญาณ?
อ: ยาใดๆ ก็ตามไม่ใช่สิ่งที่เป็นธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างเธอมีอยู่แล้วที่นี่ (ท่านอาจารย์ชี้ที่ดวงตาที่ 3) เธอต้องการอะไรจากยานั่น? วิถีของฉันมีเพียงเพื่อแสดงให้เธอรู้อะไรก็ตาม ที่เธอมีอยู่แล้ว ไม่ใช่อะไรก็ตามที่เธอต้องบวกมันเพิ่มขึ้น เราได้สับสนเพียงพออยู่แล้วในโลกแห่งนี้ เราไม่จำเป็นจะต้องเพิ่มความสับสนอะไรให้กับใจของเราและระบบของเราอีก ยาต่างๆ มีผลทางด้านร้ายในระยะยาว ทุก ๆ คนต่างรู้ดี (ปรบมือ)
ถ: ถ้าหากไม่มีความเศร้าเสียใจ พวกเราจะทราบถึงความสุขจริงๆ ในสวรรค์ได้อย่างไร
อ: อ้อ แน่นอน มีความเศร้าเพียงพอแล้ว และตั้งแต่นี้เป็นเวลาที่จะซาบซึ้งกับความสุข
ถ: วิถีกวนอิมคล้ายกับเซนหรือไม่? ฉันสามารถปฏิบัติทั้งสองและยังคงรู้แจ้งหรือไม่?
อ: หลังจากระยะหนึ่งแล้ว เธอจะรู้ว่า เธอควรจะเลือกเฉพาะวิถีกวนอิม ฉันได้ปฏิบัติแบบเซนมาแล้ว เซนแท้ๆ แต่ก่อนนั้นก็คือวิถีกวนอิมนั่นเอง
ถ: ลูกชายของฉันได้รับการประทับจิตวันนี้และสามีของฉันด้วย โปรดให้ข้อปฏิบัติบางข้อแก่ฉันเพื่อจะช่วยพวกเขาให้รักษาศีล 5 ได้
อ: โอ้ พวกเขาจะทำมันได้หรือ? หากฉันจะต้องให้ข้อควรปฏิบัติแก่เขา ดังนั้นแล้วอะไรอีกล่ะที่ฉันควรจะต้องทำ? มีทุกสิ่งทุกอย่างเขียนอยู่ในนั้นแล้ว ดังนั้นหากพวกเขาได้เลือกที่จะทำมัน เขาก็จะรักษามันไว้ได้
ถ: การโคลนนิ่งมนุษย์หรือการโคลนนิ่งสิ่งมี ชีวิตอื่นๆ ยังคงเป็นการสร้างจากพระเจ้าหรือไม่?
อ: เธอต้องการให้ฉันโดนฆ่าหรือ? เธอถามปัญหาที่มีการโต้เถียงหลายคำถาม เอาละ ฉันจะทิ้งทางเลือกในการสร้างให้กับพระเจ้า นั่นคือคำตอบของฉัน เรามีปัญหาเพียงพอแล้วเกี่ยวกับปัญหาประชากรล้น คนเสียสติ และความผิดปกติบนดาวดวงนี้เนื่องจากความล้มเหลวทางด้านเทคนิค ดังนั้นฉันจะทิ้งเรื่องอำนาจในการสร้างไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า
เธอต้องการได้ยินเรื่องขบขันอีกเรื่องหนึ่งหรือไม่? มันไม่ใช่ทางด้านจิตวิญญาณสักเท่าใด แต่มันก็เหมาะสมดี มันอยู่ในอินเตอร์เน็ต ฉันไม่อยากจะอ้างว่าเป็นผู้แต่งเรื่องนี้ มันเป็นตลกขบขันแบบนี้ หลังจากได้อ่านเรื่องราวทั้งหลายแหล่เกี่ยวกับเครื่องบินตก ปัญหาของเครื่องบิน แล้วก็อันตรายของเครื่องบินตามหนังสือพิมพ์ ผู้คนทั้งหลายก็เริ่มรู้สึกทนไม่ไหวและทำการประท้วง พวกเขาไม่ต้องการที่จะเดินทางโดยเครื่องบินอีกต่อไป พวกเขารู้สึกกลัว กลัวว่า เครื่องบินจะตก กลัวว่าจะเกิดระเบิดในเครื่องบิน ดังนั้นจึงมีบริษัทหนึ่ง เป็นกลุ่มของนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายที่ได้ใช้ความพยายามร่วมกันที่จะทำเครื่องบินซึ่งไม่มีนักบินเป็นมนุษย์ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกควบคุมโดยอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ และเครื่องยนต์
ดังนั้นหลังจากใช้เวลาอันยาวนาน พวกเขาได้ทำเครื่องบินนี้สำเร็จ และนี่ก็คือการบินครั้งแรก และผู้โดยสารต่างๆ ได้ขึ้นเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว และหลังจากที่เครื่องบินออกตัวไปแล้ว พวกเขาก็ได้ยินเสียงที่คล้ายกับเสียงมนุษย์จากคอมพิวเตอร์พูดว่า “ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ขอต้อนรับสู่เครื่องบินที่ใช้การควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ลำแรก ตั้งแต่นี้จะไม่มีข้อผิดพลาดจากมนุษย์ ที่เราเคยกังวลถึง ตอนนี้โปรดผ่อนคลาย เพราะว่าไม่มีอะไรที่จะเกิดความผิดพลาด เกิดความผิดพลาด เกิดความผิดพลาด เกิดความผิดพลาด เกิดความผิดพลาด… (หัวเราะ)
ถ: ท่านอาจารย์ที่รัก ท่านควบคุมความรู้สึกในด้านลบหรือความรู้สึกที่เลวร้าย ที่เกิดขึ้นในสมองอย่างไร?
อ: ฉันแค่ทิ้งมันไว้ แล้วมันก็จะไปเองโดยตัวของมัน หากเธอยังคงต่อสู้กับสิ่งลบนี้ เธอจะไม่มีเวลาสำหรับสิ่งที่เป็นบวก ดังนั้นทุกๆ ครั้งที่เธอได้ยิน หรือเธอรู้สึกได้ถึงความคิดด้านลบบางอย่างในหัวของเธอ ก็ให้นำความรู้สึกทางด้านดีเข้าแทนที่ ทำบางสิ่งบางอย่างที่เป็นบวกมากกว่า แล้วก็สนุกมากกว่า แล้วก็ลืมสิ่งนั้น หรือระหว่างการทำสมาธิ ฉันจะสอนพวกเธอว่าจะต่อสู้กับปัญหานี้อย่างไร
ถ: ท่านอาจารย์ เราจะทำอย่างไรกับพวกแมลงต่างๆ ในบ้านของเรา หากเราไม่สามารถจะฆ่าพวกมันได้? พวกมันทำให้เกิดความเจ็บป่วย และพวกมันทำให้เสื้อผ้าและอาหารติดเชื้อ
อ: เธอควรจะดูแล ก่อนที่พวกมันจะมา ไม่ใช่หลังจากนั้น นั่นมันจะสายไปหน่อย เอาล่ะ พวกเธอควรจะทำความสะอาดบ้านอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยน้ำและน้ำส้มสายชู 50-50 นั่นจะฆ่าเชื้อโรค และจะไม่มีกลิ่น และจะดับกลิ่นทุกๆ อย่าง สิ่งที่ฉันหมายถึงคือ มันจะทำให้กลิ่นทั้งหมดที่ดึงดูดแมลงเป็นกลาง ทำความสะอาดอะไรก็ตามที่ถูกแมลงรบกวนให้ถี่ถ้วนสิ้นเรื่องกันไป นำมันไปตากแดด เขย่ามัน และทำความสะอาดมันทุกๆ วันหรือบ่อยเท่าที่เป็นไปได้ด้วยน้ำส้มสายชู 50% และน้ำ 50 % อาจจะมีน้ำส้มสายชูมากกว่านี้ก็ได้ ถ้าเป็นไปได้ และถ้าเธอสามารถทนกลิ่นของมันได้ และเธอต้องพ่นขอบหน้าต่างและขอบประตูต่างๆ ด้วยน้ำยาไล่แมลง อันที่ไม่มีอันตราย นอกบ้านของเธอ อย่างนั้นแล้ว แมลงพวกนั้นก็จะไม่เข้ามาอีก มิฉะนั้นแล้วพวกมันก็จะเข้ามาเรื่อยๆ ตลอดเวลา เธอควรจะพ่นยาอาทิตย์ละ 1 ครั้งหรือว่านานๆ ครั้ง ดังนั้นแล้วพวกมันก็จะไม่เข้ามา แล้วเธอก็ต้องทำความสะอาดร่างกายเธอและรักษาตัวเธอให้สะอาด ไม่มีเชื้อโรค อย่างนั้นแล้วพวกมันก็จะไม่มีที่อยู่อาศัยสำหรับแพร่พันธุ์ในบ้านของเธอ
ถ: มันได้ถูกตัดสินล่วงหน้าแล้วหรือไม่ว่า เด็กคนหนึ่งจะเกิดเป็นคนดีหรือไม่ดี ฉันเป็นแม่คนหนึ่งและกังวลใจเกี่ยวกับลูกๆ ของฉัน รวมทั้งอิทธิพลที่ไม่ดีรอบข้าง
อ: มันเป็นไปได้ ที่บางคนเกิดมาและไม่สามารถควบคุมตนเองได้บางส่วน และบางคนขาดความนุ่มนวลไปบ้าง แต่หากมีการชี้แนะที่เหมาะสมและมีการช่วยเหลือด้านจิตวิญญาณ พวกเขาจะเปลี่ยนไป
 
 

ถ: ท่านอาจารย์ ฉันทราบว่า เราได้รับอนุญาตให้ดื่มนมและรับประทานเนยแข็งได้ แต่ว่าที่นี่ ในอเมริกา วัวต่างๆ ถูกปฏิบัติอย่างโหดร้าย นมประกอบไปด้วยฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต และเนยแข็งหลายๆ ชนิดก็ทำจากกระเพาะของวัวที่ตายแล้ว อย่างนี้เราควรรับประทานมังสวิรัติแบบงดผลิตภัณฑ์นมหรือไม่?

อ: หากเป็นไปได้ บางครั้งบางคราวก็ไม่เป็นไร อย่าได้วิตกเกินขอบเขต แต่หากเธอสามารถอยู่โดยปราศจากมันได้ ก็ไม่เป็นไรเช่นกัน

ถ: ท่านอาจารย์ ภรรยาของฉันได้รับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นเวลาประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ตั้งแต่เธอได้ตั้งครรภ์ เธออยากรับประทานเนื้อสัตว์และไข่ เธอควรทำอย่างไร?

     
อ: ลองถามเธอดู เธอเป็นลูกศิษย์หรือไม่ใช่ เธอปฏิบัติวิถีสะดวก ตกลง นั่นคือคำแก้ตัวข้อหนึ่งที่จะกล่าวโทษว่า เด็กเป็นต้นเหตุ เด็กที่น่าสงสาร อย่างไรก็ตาม เธอปฏิบัติเพียงแค่วิถีสะดวก หากเธอไม่ต้องการที่จะรับประทานอาหารมังสวิรัติ เราไม่บังคับเธอ ทุกๆ สิ่งในครอบครัวของเราที่นี่ ทำด้วยความสมัครใจ ถ้าเธอพร้อมที่จะกลับบ้าน ฉันจะชี้หนทางและวิธีที่จะกลับไปที่นั่น และอะไรบ้างที่ต้องหลีกเลี่ยงระหว่างการเดินทาง เพื่อที่จะทำให้ตัวของเธอมีการเดินทางซึ่งรวดเร็วและราบเรียบ แต่ถ้าหากเธอยังไม่รู้สึกพร้อมที่จะกลับบ้าน เธอสามารถทำอะไรก็ได้ ที่เธอต้องการ เธอสามารถรับประทานเนื้อสัตว์ ดื่มไวน์ และก็แต่งงาน อะไรก็ตาม มันขึ้นอยู่กับตัวเธอ ฉันเพียงแต่สอนคนที่ต้องการที่จะเรียน ถ้าหากพวกเขาคิดว่า พวกเขายังไม่พร้อม มันก็ไม่เป็นไรกับฉัน ตามสบาย ใช้เวลาของคุณ
ถ: ท่านอาจารย์ ฉันได้ยินท่านพูดหลายครั้งแล้วว่าเมื่อเราได้รับการประทับจิต 5-7 รุ่นในครอบครัวจะได้รับการช่วยเหลือ นั่นหมายถึงพวกเขาจะได้รับการนำไปสู่ระดับเดียวกับผู้ที่ท่านทำประทับจิตใช่หรือไม่? หรือพวกเขาจะอยู่ในระดับชั้นที่แตกต่างกันออกไป? และผู้ที่ได้รับการประทับจิตสามารถไปเยี่ยมพวกเขาเหล่านั้นได้หรือไม่?
อ: โอ้ ใช่ พวกเขาสามารถไปเยี่ยมได้ในระดับที่ต่างกัน นั่นขึ้นอยู่กับว่า ภายในพวกเขาจริงใจแค่ไหน และพวกเขามีกรรมมากขนาดไหน แต่ผู้ที่ได้รับการประทับจิตจะเป็นอิสระ เขาสามารถที่จะไปเยี่ยมใครก็ได้ และเวลาไหนก็ได้ ที่ไหนก็ได้ ไม่มีปัญหา ฉันหมายถึง หลังจากพวกเขาตายลง หรือแม้กระทั่งระหว่างที่พวกเขายังมีตัวตนอยู่ พวกเขาสามารถที่จะมาเยี่ยมผู้คนของพวกเขาได้ และภายหลังต่อไปพวกเขาทั้งหมดก็จะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นต่างกันหรือไม่ เพราะว่าเธอปรากฏอยู่ในระดับชั้นต่างๆ ไม่ใช่แค่เพียงระดับเดียว ดังนั้นตัวอย่างเช่น ถ้าหากบิดามารดาของเธออยู่ในระดับอสุรกายซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดทางด้านจิตวิญญาณ และเธออยู่ในระดับสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นระดับที่สูงขึ้นไป 1 ชั้น ดังนั้นแล้วเธอสามารถปรากฏอยู่ในชั้นอสุรกายในขณะเดียวกัน เพราะว่าเธอไปที่ไหนก็ตาม เธอจะได้รับระดับชั้นมากขึ้น 1 ชั้น แต่เธอปรากฏอยู่ในระดับชั้นอื่นๆ ด้วย หากเธอต้องการ ดังนั้นบิดามารดาของเธอจะเห็นเธออยู่ที่นั่นเสมอกับพวกเขาด้วย และในขณะเดียวกัน เธอก็จะอยู่ในระดับชั้นที่สูงกว่า ทุกๆ คนที่อยู่ในระดับชั้นที่สูงกว่า ขณะเดียวกันสามารถเห็นเธอด้วย ดังนั้นจึงไม่มีความรู้สึกคิดถึงหรือขาดไป หรือแยกออกจากกันในอาณาจักรของจิตวิญญาณ มันแตกต่างกับที่นี่
ถ: ท่านอาจารย์ หลังจากที่เราได้รับการหลุดพ้นแล้ว และเราได้เข้าถึงระดับของพระเยซูและพระพุทธเจ้า มีระดับที่สูงกว่านั้นไหมที่ต้องเรียนรู้?
อ: โอ้ ใช่ๆ มีระดับชั้นที่สูงกว่านั้นมากหลายชั้นที่ไปได้ นั่นคือระดับชั้นของความเป็นอาจารย์ทั่วๆ ไป ยังมีอีกมากมาย ที่ไหนก็ตามที่เธอต้องการไป สูงกว่าหรือต่ำกว่ามันไม่มีปัญหา แต่เมื่อเธอมาถึงระดับของความเป็นอาจารย์ มันก็ดีแล้ว
ถ: ท่านอาจารย์ที่รัก ท่านกล่าวว่าหนทางสู่สวรรค์ปูไปด้วยทองคำ จิตวิญญาณทั้งหลายต้องการพระราชวังด้วยหรือในโลกหน้า ฉันคิดว่า มีแต่ร่างกายที่เป็นกายภาพนี้เท่านั้นที่ต้องการพระราชวัง ทองเป็นเพียงสิ่งที่มีค่า เพราะว่ามันไม่มีมากนักในโลกนี้ แต่ในสวรรค์ มีมากมาย ดังนั้นมันมีค่าหรือ?
อ: ที่นั่นไม่มีใครสนใจเรื่องทองคำ มันเพียงบังเอิญมีอยู่ที่นั่น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เขาสนใจที่จะใส่มันไว้ที่นั่น มันเป็นเพียงลักษณะของชั้นนั้นเท่านั้น ทุกๆ อย่างสวยงาม ฉายแสง มีค่า ส่งประกายแวววาว ไม่เหมือนในโลกนี้ ทองที่โลกนั้นดีกว่าโลกนี้มาก มันเหมือนกับบ้านที่ร่ำรวยหลังหนึ่ง เธอไปที่นั่นและพบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างดูร่ำรวยและมั่งคั่งสมบูรณ์
ถ: ท่านอาจารย์ ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับการอุทิศร่างกาย หลังจากที่เราตายแล้ว?
อ: ฉันไม่คิดอะไรเลย เธอจะให้สิ่งที่เธอมีและสิ่งที่เธอต้องการ ก็ไม่มีปัญหา เหมือนกับการให้เงินทอง
ถ: ทำไมพระเจ้าจึงได้ให้เราเกิดมาเป็นมนุษย์และผ่านการทดสอบทั้งหลาย รวมทั้งเคราะห์กรรมนานา เพื่อที่จะระลึกได้ถึงตัวเรา ทั้งๆ ที่เราสมบูรณ์พร้อมมาแต่แรก
อ: นั่นเป็นเพราะว่าพวกเราต้องการที่จะสนุก เราเห็นคนร่ำรวยมากมายเขาไปพักผ่อนทุกๆ วัน ทุกๆ ปี หรือตลอดเวลา เธอเคยเห็นเขาไหม ผู้คนที่มีที่อยู่อาศัยใหญ่โตและคนรับใช้ทั่วบ้าน? พวกเขาทำอย่างไร เมื่อเขาเดินทางท่องเที่ยว? บางครั้งพวกเขาเช่ากระท่อม ที่หลังคามุงด้วยฟางซึ่งเล็กเหลือเกิน มันดูเหมือนบ้านของคนยากจน แล้วเขาก็ออกไปข้างนอกและพายเรือ เหงื่อออกภายใต้แสงอาทิตย์ ขณะที่พวกเขาก็มีเรือยอร์ชลำใหญ่โตที่มีราคาถึงหลาย 100 ล้านดอลลาร์ที่บ้านซึ่งมีเครื่องยนต์กลไกที่จะทำให้มันเคลื่อนที่ไป แว๊บ ไปดวงจันทร์ เป็นต้น
เราต้องการที่จะสนุกสนาน เมื่อมันสนุก มันก็ไม่เป็นไรว่า เราทำอะไร เราจำไม่ได้ถึงตัวเราที่สมบูรณ์แบบ จนกระทั่งเรามาถึงที่นี่ อยู่ในโลกของความไม่สมบูรณ์แบบ และมันก็เป็นแบบนี้เพื่อจะได้เห็นเงาสะท้อน เพื่อที่เราจะได้รู้จักตัวเราเอง โลกนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อที่เราจะสามารถรู้ เข้าใจตัวของเรา รู้จักพระเจ้า เหมือนกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อที่ว่าจะได้มีความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิง ถ้าหากไม่มีการเปรียบเทียบ เราจะไม่รู้จักตัวของเราเอง เธอเข้าใจหรือไม่? (ปรบมือ) เช่นเดียวกับชายผู้ร่ำรวย หลังจากที่พายเรือและเหงื่อออกท่ามกลางแสงอาทิตย์เป็นเวลา 1 เดือน หรืออยู่ในกระท่อมมุงจาก และมีชีวิตที่เรียบง่าย เขาก็รู้สึกยินดีที่จะกลับไปยังวังของเขา ยินดีที่จะกลับไปยังเรือยอร์ชของเขา เครื่องบินของเขา แล้วก็ความสะดวกสบายต่างๆ ของเขา และทุกๆ สิ่งซึ่งเป็นชีวิตที่สะดวกสบายชีวิตหนึ่ง
ถ: ท่านอาจารย์ ฉันไม่รู้ว่า ฉันพร้อมที่จะกลับบ้านหรือยัง ฉันชื่นชมท่าน และฉันมีความปรารถนาที่จะทำสมาธิและได้รู้จักกับพระเจ้า แต่ขณะเดียวกัน ยังมีความสามารถ ความรู้ต่างๆ และความแข็งแรงที่ฉันต้องการจะพัฒนาในช่วงชีวิตนี้ นั่นหมายถึงฉันไม่พร้อมที่จะกลับบ้านใช่หรือไม่? นั่นหมายถึงว่า ฉันไม่อยู่ในระดับที่สูงพอที่จะรับการประทับจิตใช่หรือไม่?
อ: ไม่ใช่ ไม่ใช่ เธอควรจะรักชีวิตนี้ นั่นดีแล้ว เยี่ยมยอดที่สุด เธอไม่ควรต้องรอ จนกระทั่งเธอสูญเสียกำลังทั้งหมด ความสามารถทั้งหมด และอำนาจของเธอ และเธอจะรู้สึกเศร้าสร้อย ยากจน ไร้ความสามารถที่จะเข้าสู่ความรู้แจ้งได้ เธอควรจะทำมัน เมื่อเธอมีความสุขเต็มที่ เมื่อเธอมีทุกสิ่งทุกอย่าง นั่นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด นั่นหมายถึงเธออยู่ในระดับซึ่งสูงมากแล้ว เพราะว่าเธอมีทุกสิ่งทุกอย่าง และเธอยังมีพรอันศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และเธอยังคงมีความต้องการที่จะพบพระเจ้า เธอเป็นนักบุญแล้วคนหนึ่ง
ถ: ท่านอาจารย์ ถ้าหากบุคคลหนึ่งได้รับการประทับจิต แล้วเขาปฏิบัติเพียงเล็กน้อย แต่แล้วเขาก็เลิกล้ม 2-3 ปีหลังจากนั้นเขาก็ตาย เป็นไปได้หรือไม่ ที่เขาจะกลับมาเกิดอีกในโลกนี้ หรือท่านจะนำเขาขึ้นไป?
อ: มันขึ้นอยู่กับตัวของอาจารย์ และขึ้นอยู่กับบุคคลผู้นั้น ท่านอาจารย์ชิงไห่จะนำเขาขึ้นไป หากเขาต้องการ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับผู้หญิงคนนี้ เธอเยี่ยมยอด (ปรบมือ)
ถ: ส่วนหนึ่งของคัมภีร์ไบเบิลที่เรียกว่าคิงเจมส์ กล่าวว่า “เธอจะไม่สามารถจะเข้าสู่อาณาจักรของสวรรค์ได้ ยกเว้นว่าเธอเหมือนเป็นเด็กเล็กๆ ไปแล้ว” นั่นหมายถึงอะไร?
อ: นั่นหมายถึงว่า เราต้องชะล้างร่างกายเราให้ปราศจากความคิดล่วงหน้า ชำระร่างกายของเราจากกรรมที่ขัดขวางไว้ในครั้งก่อนซึ่งได้อยู่ในใจ ร่างกาย และความรู้สึกของเรา หลังจากการประทับจิต อาจารย์จะทำความสะอาดเธอ ทำความสะอาดเธอด้วยไฟ ด้วยพรทางด้านจิตวิญญาณ ทำให้เธอฉายแสงบริสุทธิ์และไร้เดียงสาอีกครั้งเหมือนกับเด็ก นั่นคือทำไมเธอสามารถเห็นสวรรค์ได้ทันที
ถ: ท่านอาจารย์ ท่านพูดว่า กรรมเกิดจากตัวของเราเอง เกิดจากบรรทัดฐานต่างๆ ทางด้านศีลธรรมของเราเอง และประสบการณ์ต่างๆ ของเราเอง ดังนั้นหากคนคนหนึ่งไม่มีบรรทัดฐานทางศีลธรรม กรรมของเขาจะน้อยลงหรือไม่ เพราะว่าแม้ว่าเขาทำสิ่งที่ไม่ดี แต่เขาไม่คิดว่า มันเป็นสิ่งที่เลวร้าย? หรือหากบุคคลคนหนึ่งมีความทรงจำที่ไม่ดี และเขาลืมเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำไม่ดีไป นั่นจะหมายถึง กรรมของเขาจะไม่มีมากมายใช่หรือไม่?
อ: นั่นคือคำแก้ตัวที่ดี! (หัวเราะ) หากเธอปล้นธนาคารและบอกตำรวจว่า “ฉันลืมไปแล้วว่า ฉันทำอะไรไป ขอโทษด้วย” เธอคิดว่า ตำรวจจะเชื่อสิ่งนี้หรือไม่ ซึ่งมีรอยนิ้วมือและหน้าของเธออยู่ในกล้อง และทุกๆ อย่าง? นั่นเป็นหนทางที่ฉลาดที่จะหลอกพระเจ้า แต่นั่นมันยาก ไม่ว่าเราจะมีความสามารถทางสมองแบบไหน เราอยู่ในตำแหน่งการจัดวางแบบไหน อะไรก็ตามที่เราทำ ได้ถูกบันทึกในจิตใต้สำนึกของเรา และมันจะไม่มีทางเลยที่จะจางหายไป ยกเว้นที่จะกำจัดโดยอำนาจทางจิตวิญญาณ ยกเว้นเธอได้ลบมันจากภายในของจิตใต้สำนึก นั่นคือวิถีทาง ที่เราได้รับการไถ่บาปและกลายเป็นเด็กอีกครั้งได้อย่างไร หลังจากได้รับการประทับจิต
ถ: ท่านอาจารย์ หากฉันไม่มีความสุขกับชีวิตแต่งงาน ฉันจะหย่ากับสามีได้หรือไม่? ฉันจะทราบได้อย่างไรว่า เมื่อไรถึงเวลาอันสมควรที่จะกระทำเช่นนั้น?
อ: โอ พระเจ้า! คุยกับสามีของเธอสิ! เธอทั้งคู่จะต้องมีความคิดเห็นตรงกัน เมื่อนั้นก็โอเค แต่นั่นก็เมื่อเธอจำเป็นจะต้องจากเขาไป หากเธอมีเป้าหมายที่ดีกว่า มิใช่เพียงแต่วิ่งหนีปัญหาไป เพราะชายคนต่อไป ที่เธอพบ อาจจะมีปัญหาที่แย่กว่าก็ได้ เพราะดอกเบี้ยจะเพิ่มพูนขึ้น หมายถึงกรรม
ถ: ท่านอาจารย์ที่รัก เมื่อผู้ประทับจิตกลับมาจากการเข้าฌาน 3 วัน ทำไมผู้คนจึงเห็นว่า พวกเขาเปลี่ยนแปลงไป?
อ: เป็นเพราะพวกเขากลายเป็นสะอาดขึ้น บริสุทธิ์ขึ้น และมีประกายมากขึ้น
ถ: ท่านอาจารย์ที่รัก ในหัวใจฉันมีความฝันอยู่ 5 อย่าง เป็นสิ่งที่ฉันอยากจะให้เกิดขึ้น ฉันอยากจะได้รับพรจากท่านอาจารย์ให้มีความสำเร็จในชีวิตนี้ เราสามารถเข้าร่วมฌานนานาชาติด้วยกายทิพย์ได้หรือไม่? มีความแตกต่างอย่างไรกับการมาด้วยกายเนื้อ?
อ: ฉันเข้าใจ หล่อนอยากจะอยู่กับบ้านแล้วก็บอกว่า “โอเค ฉันจะไปด้วยหัวใจของฉัน” นั่นเป็นเรื่องที่สะดวกเป็นอย่างยิ่ง เป็นความคิดที่ดีมาก คราวหน้าเธอมาที่นี่ ฉันก็จะเพียงบอกว่า “เอาละ ฉันจะมาที่นี่ด้วยหัวใจของฉัน ฉันจะไม่ปรากฏด้วยกายเนื้อ” ฉันทำอย่างนั้นได้หรือไม่? (ไม่ได้) เธอได้ตอบด้วยตัวเธอเองแล้ว มันเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมมากเลย โอ พระเจ้า!
ถ: ท่านอาจารย์ที่รัก ฉันอายุ 79 ปีแล้ว และฉันได้โอกาสพบท่านในฟลอริดาในครั้งแรกที่มาเยี่ยมอเมริกา นี่คือวัน ที่ฉันโชคดีที่สุดเลย ขอขอบคุณท่าน ท่านอาจารย์ ฉันอยากจะประทับจิตมากเลย ถึงแม้ว่าจะมีผู้กล่าวกับฉันว่า ฉันอายุมากเกินไปแล้ว สุขภาพฉันดีมากเลย ท่านอาจารย์ ขอร้อง ขอประทับจิตได้ไหม?
อ: สุขภาพเธอดีมาก แต่เธอมีเวลาไม่มาก อย่าคาดคั้นฉันเลย ถ้าเธออยากจะศึกษาในมหาวิทยาลัย เธอก็จะต้องมีเวลาอยู่บ้าง มีอะไรบางสิ่งบางอย่างที่ต้องใช้เวลา ให้ไปบำเพ็ญวิถีสะดวกเสีย นั่นก็ยอดเยี่ยมแล้ว
ถ: ท่านอาจารย์ ฉันเป็นศิษย์จากจีนแผ่นดินใหญ่ ฉันดีใจมากที่ได้มีโอกาสพบท่านก่อนจะกลับไปประเทศจีน ฉันหวังว่า ท่านจะมีความสุขและมีชีวิตอันดีงามตลอดไป จากเพื่อนบำเพ็ญชาวจีนทั้งหมด และฉันมีคำถามอยู่ 2 คำถาม คำถามแรกคือคำถาม ที่มีผู้คนอีกมากมายถามเช่นกัน ฉันสามารถจะเดินทางไปกับท่านได้หรือไม่ เพราะว่าฉันมีความตั้งใจที่จะเผยแพร่คำสอนไปสู่ชาวตะวันตก? ฉันแสวงหาที่จะทำให้ชีวิตของตนเป็นประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์
อ: เธอควรจะดำรงอยู่ ณ ที่เธออยู่ แล้วก็บริการสมาชิกในครอบครัวของเธอและคนในชุมชนของเธอ นั่นก็คือการให้บริการกับโลก นั่นก็คือการเดินทางไปกับฉัน การเดินทางไปกับฉัน ไม่ได้หมายถึงทางกาย แต่เดินทางด้วยอุดมการณ์อันเดียวกัน ในทิศทางเดียวกัน และ ณ เวลาหนึ่ง เราก็จะไปถึงที่นั่นด้วยกันทั้งหมด เพราะหากเธอเดินทางกับฉัน จะเกิดความไม่สะดวกมากมายหลายอย่าง สมาชิกครอบครัวของเธอก็จะคิดถึงเธอ ในสังคมของเธอ ก็จะขาดซึ่งคนที่ขยันขันแข็งและมีความสามารถคนหนึ่ง เช่นเดียวกับบ้านหลังหนึ่ง ต้องใช้อิฐจำนวนมากมายหลายก้อนเพื่อที่จะดำรงซึ่งโครงสร้างของมัน หากเธอนำอิฐก้อนหนึ่งออกไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป ให้เธอดำรงอยู่ ณ ที่ซึ่งเธออยู่ แล้วก็ให้เป็นนักบุญ
ถ: ท่านอาจารย์ เทวดาแห่งมายาและจ้าวแห่งกรรม ต่างทำงานด้วยกันเพื่อรั้งผู้คนให้ผูกพันอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่?
อ: ใช่แล้ว พวกเขาทำเช่นนั้น พวกเขาเป็นหนึ่งและคือสิ่งเดียวกัน พวกเขาต่างก็ดี พวกเขาต่างก็ทำงานของเขาอย่างดี ทำให้ความมุ่งมั่นของเธอที่จะรู้จักตนเอง เข้มแข็งขึ้น
 

ถ: คนคนหนึ่งสามารถประทับจิตในวันนี้ แล้วจากนั้นในทันใด หรือในชั่วขณะสั้นๆ ก็สามารถช่วยผู้อื่น ซึ่งเขารักเพื่อที่จะลดความทุกข์ของพวกเขาได้หรือไม่?

อ: แน่นอน ในระดับหนึ่ง ได้ในทันที เพราะเธอไม่ทราบหรอกว่า มีบรรพบุรุษของเธออีกกี่ชั่วโคตรที่จะได้รับการยกระดับสู่มิติที่สูงขึ้น หลุดจากนรก พ้นไปจากความทุกข์ เธอไม่ทราบหรอก รวมทั้งในขณะที่เธอดำรงชีวิตอยู่ที่นี่ เธอก็จะช่วยผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน

 

 
     
1 2 3 4