การแลกเปลี่ยนทางจิตวิญญาณ
 

 งานสัมมนาศาสนากับชาวจีนนาาชาติ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2543

 

(กลาง) ท่านอาจารย์ เข้าร่วมสัมมนาที่ไทเป (ซ้าย) นายจูหงเหวียน นักวิจัยประวัติศาสตร์ยุคสมัยปัจจุบัน

(ขวา) ศาสตราจารย์หร่วน จือเซิง แห่งมหาวิทยาลัยใต้หวัน

 
 

6 พฤษภาคม 2543 ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้ร่วมสัมมนาในงานศาสนากับชาวจีนนานาชาติครั้งที่ 4 ตามคำเชิญ โดยได้กล่าวถึงสภาพการพัฒนาของธรรมวิถีกวนอิมในแถบเอเชียอาคเนย์ งานสัมมนาครั้งนี้ได้จัดขึ้นที่ศูนย์วิจัยส่วนกลางซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นหน่วยงานวิจัยด้านศิลปศาสตร์แห่งชาติ หน่วยงานที่จัดคือแผนปฏิบัติการวิจัยแถบเอเชียอาคเนย์แห่งศูนย์วิจัย สมาคมศาสนาแห่งไต้หวัน สถานีโทรทัศน์ส่วนกลาง ทีมงานวิจัยชาวจีนนานาชาติยุคประวัติศาสตร์สมัยปัจจุบันแห่งศูนย์วิจัย ศูนย์วิจัยทางด้านเทคโนโลยีแผนรวมแห่งจีนไต้หวัน ศาสตราจารย์และนักวิจัยด้านศิลปศาสตร์ สื่อมวลชนจำนวนมาก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทำงานและสถานที่ทุกแห่งดีเด่นจากทุกสาขาอาชีพซึ่งได้ออกร่วมงานนี้ด้วย

เนื้อหาในการสัมมนาครั้งนี้จะถูกนำเสนอออกฉายทางสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางในวันที่ 20 พฤษภาคม 2543 และสถานที่ทุกแห่งทั่วโลกสามารถรับฟังข่าวสารได้จากสถานีวิทยุโดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ท www.cbs.org.tw ในวันนั้นด้วย

 

 เปิดงาน

ประธาน (นายจูหงเหวียน นักวิจัยประวัติศาสตร์ยุคสมัยปัจจุบันแห่งศูนย์วิจัยส่วนกลาง): สวัสดีท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ศาสตราจารย์หร่วนจือเซิงแห่งมหาวิทยาลัยไต้หวัน นักวิชาการที่มาร่วมงานทุกท่าน รวมทั้งมิตรสหายทุกท่านที่มาจากทุกสาขาอาชีพของสังคมที่มีความสนใจทางด้านวิชาความรู้ วันนี้ซึ่งเป็นโอกาสอันหายากที่ศูนย์วิจัยส่วนกลางได้จัดงานสัมมนาทางด้านศาสนาและวิชาการด้านศิลปศาสตร์รวมกัน

ศูนย์วิจัยยุคประวัติศาสตร์สมัยปัจจุบันมีหน่วยงานหนึ่งซึ่งเป็นหน่วยงานชาวจีนนานาชาติ ผมเองรับหน้าที่เป็นผู้ระดมคน หลายปีที่ผ่านมา ได้รับผิดชอบและผลักดันกิจกรรมหลาย ๆ รายการ ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา เนื่องจาก “กรมศาสนาแห่งไต้หวัน” นายกสมาคม หลิงเหม่ยหลง ได้ให้การสนับสนุนและผลักดัน ทำให้ศูนย์วิจัยของเรา ซึ่งเดิมทีมีขอบเขตเฉพาะชาวจีนเอเชียอาคเนย์ ได้เข้าสู่การเข้าร่วมกับศาสนา ดังนั้นวันนี้จึงได้เชิญบุคคลสำคัญที่เป็นผู้นำทางด้านศาสนามาร่วมกิจกรรมที่ศูนย์วิจัยส่วนกลาง แท้จริงงานนี้เป็นฉากที่ 4 ของกิจกรรมการบรรยายทั้งหมด 8 รายการของเรา ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม คริสต์ และเต๋าตลอดแนว วันนี้จึงเป็นโอกาสพิเศษคือ มีธรรมวิถีกวนอิมโดยมีท่านอนุตราจารย์ชิงไห่เป็นผู้นำ มาเผยแพร่สู่ดินแดนใหม่นี้ ทำให้เราได้ศึกษาสภาพการใหม่อันเป็นสิ่งใหม่ ซึ่งสภาพการใหม่นี้มีผลต่อชาวจีนทั่วโลกเป็นอย่างยิ่ง

เนื่องจากแผนการของเราได้ร่วมกับแผนการอีกแผนหนึ่งแห่งศูนย์วิจัยส่วนกลาง แผนการนี้คือ แผนการศึกษาวิจัยเอเชียอาคเนย์แห่งศูนย์วิจัย ซึ่งเป็นแผนการรวม นำโดยศาสตราจารย์เซียวซินหวง ซึ่งประธานเซียวได้ให้การสนับสนุนต่อกิจกรรมนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นค่าใช้จ่ายการบรรยายที่ท่านได้ช่วยสนับสนุนให้ แม้จะเป็นจำนวนเงินไม่มาก แต่ว่าแท้จริงแล้วเป็นการแสดงถึงการให้การสนับสนุนทางด้านความรู้ ทางวิชาการ และคุณธรรม ดังนั้นรายได้จากการบรรยายในวันนี้ เราจะขอมอบให้แด่ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ (อ้างอิง: ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้มอบเงินค่าบรรยายแก่หน่วยงานที่จัดงานในงานในวันนั้น)

นอกจากนี้ ทางศูนย์วิจัยของเราก็คือทีมงานวิจัยชาวจีนเอเชียอาคเนย์ ยังมีค่าใช้จ่ายจากการพิพากษาอีกจำนวนเล็กน้อยซึ่งจะมอบให้แก่ศาสตราจารย์หร่วน อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องเล็กของความหมายอันเป็นสิ่งสำคัญ คือการแสดงถึงการรวมกัน การให้ความร่วมมือสนับสนุนแผนปฏิบัติการร่วมกันของแต่ละหน่วยงานของเรา

เรารู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่มีหน่วยงานอีก 2 หน่วยงานเข้าร่วม โดยเฉพาะผู้จัดรายการแห่งสถานีโทรทัศน์ส่วนกลาง ท่านอุน ซึ่งรับผิดชอบนำรายการนี้ไปเสนอต่อบุคคลทั่วโลก ซึ่งรายการ “สมาคมชาวจีนบนท้องฟ้า” ได้นำรายการของเราถ่ายทอดสดให้แก่ชาวโลกได้ชมกัน ดังนั้นเนื้อหาการบรรยายของเราในวันนี้จะถูกบันทึกไว้ทั้งหมด

ส่วนอีกหน่วยงานหนึ่งที่เราควรจะแสดงความขอบคุณ คือสมาคมเทคโนโลยีแผนรวมแห่งจีนไต้หวัน สมาคมเทคโนโลยีแผนรวมแห่งจีนไต้หวันได้ก่อตั้งขึ้นเป็นเวลา 19 ปีมาแล้ว ซึ่งได้ผลักดันกิจกรรมแผนปฏิบัติการรวมหลายรายการ โดยได้รับการสนับสนุนจากศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ซึ่งสมาคมแห่งนี้มีศาสตราจารย์ประมาณ 200 ท่าน ได้ช่วยกันจัดและผลักดันกิจกรรมแผนปฏิบัติการแห่งเทคโนโลยีปละวิทยาศาสตร์ โดยการศึกษาวิจัยกิจกรรมทางศาสนาและชาวจีนเอเชียอาคเนย์ แท้จริงคือศูนย์วิจัยเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ที่มีความก้าวหน้ามากแบบหนึ่ง

ดังนั้นเรายินดีต้อนรับสมาคมเทคโนโลยีแผนปฏิบัติการรวมแห่งจีนไต้หวันมาเข้าร่วมงานกิจกรรมครั้งนี้ด้วย ซึ่งมีหลายท่านที่เป็นผู้นำสำคัญมาร่วมอยู่ด้วย แน่นอน เราต้องแสดงความขอบคุณอย่างสูงสุดต่อศูนย์วิจัยส่วนกลาง ศูนย์วิจัยส่วนกลางของเราได้ให้ความสนใจกับกิจกรรมของเราในครั้งนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งที่เกี่ยวกับท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ เนื่องจากข่าวสารบางส่วนที่ลงในหนังสือ ก่อให้เกิดความสนใจบางประการ ซึ่งในขณะเดียวกันอาจจะก่อให้เกิดการเข้าใจผิดเล็กน้อย ดังนั้นศาสตราจารย์หยังกั๋วชวี รองนายากสมาคมของเรา และมีผู้รับผิดชอบซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในศูนย์วิจัยของเราหลายท่าน ได้โทรศัพท์ติดต่อกับกระผมเพื่อเรื่องนี้หลายครั้ง กระผมรู้สึกซาบซึ้งมากที่พวกเขาจัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้นโดยทิ้งอุปสรรคทั้งหมด

กระผมคิดว่า กิจกรรมในครั้งนี้เป็นกิจกรรมพื้นฐานเกี่ยวกับความรู้และวิชา ดังนั้นวันนี้เราจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากทุกท่าน อันดับแรกคือ การสนทนาในด้านความรู้และวิชาการในครั้งนี้ที่ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้เดินทางไปเยือนสถานที่มากมายหลายแห่ง ดังนั้นเมื่อสักครู่กระผมจึงได้กล่าวกับท่านโดยเฉพาะว่า อีกสักครู่เราจะกล่าวถึงชาวจีนแถบเอเชียอาคเนย์ การจัดองค์กรและการจัดการด้านต่าง ๆ เป็นอันดับแรกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยได้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในช่วงนี้ในส่วนที่เป็นของศาสนา แน่นอนซึ่งมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ที่จะต้องกล่าวถึงบางส่วน

เราหวังว่าส่วนที่เกี่ยวกับชาวจีนเอเชียอาคเนย์พยายามให้การสนับสนุนมากที่สุด เปลี่ยนคำพูดอีกแบบหนึ่งคือ ทางด้านศาสนาหรือว่าการพัฒนาแห่งธรรมเทศนาในพื้นที่ที่นอกเหนือไปจากเอเชียอาคเนย์ สภาพการณ์หรืออุปสรรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความหวังแห่งการพัฒนาในอนาคต ซึ่งเรื่องเหล่านี้สามารถเก็บไว้ก่อน การซ่อนไว้ซึ่งสมบัติอันล้ำค่าบางอย่าง ไว้ในอนาคตเราค่อยหาโอกาสใหม่มาสนทนาต่อ

งานสัมมนาในวันนี้เป็นงานสัมมนาสั้นเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน 1 ขั้นตอนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง กระผมคิดว่าบุคคลทั่วโลกหรือบุคคลที่เคยฟังท่านอาจารย์เทศนาที่ศูนย์กีฬาเถาเยวียนกู้ตั้ง (หมายถึงวันที่ที่ท่านอาจารย์ได้เทศนา) ก็ไม่มีโอกาสอันล้ำค่าเหมือนอย่างวันนี้ ดังนั้นจึงขอให้ทุกท่านสนทนาให้ได้ใจความและรวบรัด และพยายามกล่าวถึงเนื้อหาที่เกี่ยวกับการวิจัยทางด้านวิขาการส่วนที่เป็นของชาวจีนแถบเอเชียอาคเนย์ เพราะเราหวังว่าจากการที่ได้ผ่านการยืนยันของพวกท่าน สามารถรวบรวมข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการวิจัยได้เพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง เวลามีค่ามาก กระผมคิดว่า สิ่งที่กระผมควรจะกล่าวแนะนำควรจะจบลงเท่านี้

บัดนี้ขอเชิญท่านอนุตราจารย์ชิงไห่เทศนาหัวข้อเรื่อง “ธรรมวิถีกวนอิมกับชาวจีนเอเชียอาคเนย์” ให้กับพวกเรา เชิญครับ! (ทุกท่านปรบมือ)

 
 ธรรมวิถีกวนอิมกับชาวจีนเอเชียอาคเนย์

ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่: ขอบคุณ! ขอบคุณมาก! เนื่องจากฉันมาที่นี่ตามคำเชิญของท่าน ก็ให้ฉันเริ่มต้นเลยดีกว่า โดยไม่ต้องมีมารยาทกันเกินไป เราจะได้ไม่เสียเวลา ขอบคุณสำหรับความไว้วางใจของท่านและการให้เกียรติฉันเช่นนี้ ฉันรู้สึกเสมอมาว่า ฟอร์โมซาเป็นบ้านของฉัน ดังนั้นการกลับมาของฉันในคราวนี้จึงไม่รู้สึกเสมือนเป็นอะไรพิเศษแต่อย่างใด ฉันไม่ได้มาเยี่ยมเยียนประเทศฟอร์โมซามาเป็นเวลานานแล้วเพราะว่าฉันยุ่งอยู่ในต่างประเทศ เมื่อวานฉันบรรยายธรรม และพวกท่านก็คงจะอยู่ที่นั่น จึงน่าจะทราบเรื่องราวอะไรบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฉันสัญญาว่าจะบรรยายเป็นพิเศษในวันนี้ ฉันจึงจะดำเนินตามแนวทางที่วางไว้โดยท่านประธานของเรา และจำกัดการบรรยายให้อยู่ในหัวข้อของวันนี้ ถ้าหากฉันหลุดออกนอกเรื่อง ก็โปรดช่วยดึงฉันกลับมาด้วย

บางทีพวกท่านส่วนมากจะทราบถึงตัวตนของเราที่นี่ เพราะเราค่อนข้างจะสร้างเรื่องใหญ่โตไว้ในฟอร์โมซา ฉันหมายความว่า รัฐบาลและสื่อมวลชนได้ช่วยเหลือให้เรามีชื่อเสียงยิ่งนัก (เสียงหัวเราะ) ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะมีการเข้าใจผิดก็ตาม เหล่านั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการของพระเจ้า พระองค์ดำเนินสิ่งต่าง ๆ ในวิธีของพระองค์ บางครั้งพระองค์ปล่อยให้ผู้คนสรรเสริญเธอมากมายเพื่อทำให้เธอมีชื่อเสียง ณ เวลาอื่น ๆ พระองค์ปล่อยให้ผู้คนเข้าใจเธอผิด และนั่นทำให้เธอมีชื่อเสียงด้วย วิธีที่ 2 ไม่ค่อยน่ารื่นรมย์สักเท่าใด และเราก็ไม่ค่อยชอบนัก อย่างไรก็ตาม พระเยซูคริสต์ เป็นต้น ก็ถูกคนจำนวนมากเข้าใจผิดและเป็นเหยื่อของความทุกข์ทรมานมหาศาล กระนั้น ในทุกวันนี้พระองค์ได้รับการเคารพบูชาทั่วทั้งโลก พระศากยมุนีพุทธเจ้าก็ถูกวางกรอบและเข้าผิดโดยคนจำนวนมากในสมัยที่พระองค์ทรงพระชนม์อยู่ อย่างไรก็ตาม คนทั้งโลกก็บูชาพระองค์ทุกวันนี้ หากมหาอาจารย์ทั้ง 2 พระองค์นี้ต้องทนทุกข์ทรมานและการกล่าวหาในทางที่ผิด การทนทุกข์เล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ก็ไม่ควรจะเป็นอย่างใดสำหรับคนทั่ว ๆ ไปเช่นเรา มันช่วยล้างกรรมของเรา

ในกลุ่มของเรา เรารู้สึกเป็นบุญคุณต่อคนเหล่านั้นซึ่งดูถูกหรือประณามเรา เพราะพวกเขาช่วยล้างกรรมให้กับเรา เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยากที่ ณ เวลาหนึ่งในชีวิตของเรา เราอาจจะทำอะไรบางอย่างที่ไม่พึงพอใจต่อใคร ๆ และก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่ผู้คน เมื่อผู้คนพูดจาเสื่อมเสียเกี่ยวกับเรา ก็หมายความว่า กรรมของเราได้รับการชะล้างไป และเราจะรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น และจะได้รับรางวัลหลังจากที่สิ้นชีวิตไป

 จุดเริ่มต้น


คราวนี้ฉันจะพูดเกี่ยวกับกิจกรรมพัฒนาต่าง ๆ ของเรา ถึงแม้ว่าเรามีศูนย์ติดต่อต่าง ๆ ในมากมายหลายประเทศและหลายสถานที่ เรากลับมีพี่น้องอยู่ในเอเชียอาคเนย์มากกว่าที่ใดอื่นในโลก เมื่อเอ่ยถึง “พี่น้อง” ฉันหมายถึงเพื่อนบำเพ็ญของเรา เราเรียกกันและกันเช่นนั้นเพราะเราบำเพ็ญวิถีเดียวกันแรกเริ่มเดิมที ฉันไม่รู้จักใครในฟอร์โมซา แต่บัดนี้ทุก ๆ คนปฏิบัติต่อฉันเหมือนเป็นชาวฟอร์โมซา ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เมื่อวานนี้ฉันรู้สึกราวกับว่าได้กลับมาบ้าน เมื่อฉันอยู่ต่างประเทศ ผู้คนจะแนะนำฉันว่าเป็นคนที่มาจากฟอร์โมซา เมื่อเรามอบความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับสถานที่อื่น ๆ พวกเขาก็จะเอ่ยถึงเราว่าเป็นกลุ่มจากฟอร์โมซา ดังนั้นฉันจึงจะมาพักอยู่ที่นี่ในฐานะเป็นชาวฟอร์โมซา และถึงแม้ว่าร่างกายของฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ หัวใจและวิญญาณของฉันจะอยู่ที่นี่ นี่คือบางอย่างที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ บางทีฉันอาจจะเกิดที่นี่ในชาติที่แล้ว มีบางคนในขณะที่ทำสมาธิ ได้เห็นฉันรับประทานใบมันเทศในฟอร์โมซาในชาติที่แล้ว เราต่างก็มีบุญสัมพันธ์อันลึกซึ้งซึ่งกันและกัน

ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้จักใครเลยเมื่อแรกมาที่นี่หลายปีมาแล้ว ฉันก็รู้สึกประทับใจเป็นยิ่งนักกับการต้อนรับอย่าง อบอุ่นซึ่งชาวฟอร์โมซาได้มอบให้กับฉันในทันทีทันใด ฉันถูกลิขิตให้อยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณี ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และสร้างวินัยให้กับตนเอง มันเสมือนหัดขับรถและปฏิบัติตามคำของอาจารย์ จะมีผู้คอยควบคุมอยู่ข้างเราในขณะที่เราขับตามคำสั่งของเขาอย่างเคร่งครัด ครั้นเราทราบวิธีขับ เราก็จะไม่ต้องใช้อาจารย์อีกต่อไป เราจะคุ้นเคยกับกฎเกณฑ์เป็นยิ่งนักจนสามารถขับได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติผู้คนที่นี่ดูแลฉันเป็นอย่างดียิ่งเมื่อฉันมาในทีแรก วัดวาอารามก็ต้อนรับฉันและปฏิบัติต่อฉันเป็นอย่างดี พวกเขามอบเงินให้ฉันเมื่อขาดแคลน

สมัยนั้นฉันไม่มีเงินแม้สักสลึงเดียว แต่บัดนี้ฉันทำงานหาเงินได้ ครั้งหนึ่งเมื่อฉันเข้าฌานในวัดแห่งหนึ่งในตอนกลางคืน มีคนประมาณโหลหนึ่งมาเคาะประตูของฉัน ฉันงงงวยที่เห็นพวกเขา ณ ชั่วโมงนั้น พวกเขาเข้ามาและเปิดเผยว่า กวนอิมโพธิสัตว์ขอให้พวกเขามาค้นคว้าหาฉันออกมาและเรียนอะไรบางอย่างจากฉัน สมัยนั้นฉันรู้จักคนเพียงไม่กี่คน และยังเข้าฌานอยู่ ฉันรู้สึกประหลาดใจว่า ผู้คนเหล่านั้นทราบเกี่ยวกับฉัน แต่พวกเขากล่าวว่าเป็นกวนอิมโพธิสัตว์ซึ่งแนะให้พวกเขามา ฉันไม่พร้อมที่จะสอนใคร แต่ก็เริ่มทำดังนั้นเนื่องด้วยความจริงใจอย่างลึกซึ้งของพวกเขา

ฉันมิใช่ชาวฟอร์โมซา ดังนั้นฉันจึงไปสหรัฐอเมริกา ซึ่งฉันได้อยู่ที่นั่นเป็นเวลาปีกว่า อีกครั้ง ที่นั่นมีผู้คนมาหาฉัน โดยอ้างว่าพระเจ้าได้บอกให้พวกเขามาหาฉัน ณ วัดแห่งหนึ่ง ผลก็คือ ฉันได้สร้างบุญสัมพันธ์กับชาวอเมริกาด้วย แรกเริ่มเดิมทีฉันมีบุญสัมพันธ์เพียงกับชาวจีน แต่ฉันต้องออกจากฟอร์โมซาเมื่อวีซ่าหมดอายุ เนื่องด้วยเหตุนี้ฉันจึงไปสหรัฐอเมริกา จนถึงทุกวันนี้ฉันก็ยังไม่สามารถอยู่ที่ฟอร์โมซาได้อย่างถาวร

หลังจากที่ฉันได้สร้างบุญสัมพันธ์กับชาวอเมริกา ชาวฟอร์โมซาก็ได้ขอให้ฉันกลับไปเพราะพวกเขารักฉันจริงๆ ฉันตกลงและมาอยู่ที่นี่เป็นเวลานานพอสมควร ซึ่งคือสาเหตุที่กลุ่มของเราสามารถเติบโตและขยายได้ในฟอร์โมซา นี่คือบุญสัมพันธ์ฉันเริ่มบินกลับไปกลับมาระหว่างฟอร์โมซาและสหรัฐอเมริกา และในภายหลังก็เดินทางไปสู่ประเทศอื่น ๆ ด้วย

ฉันมีบุญสัมพันธ์กับชาวจีน ในเอเชียอาคเนย์ซึ่งมีประชาชนชาวจีน ข่าวก็จะแพร่หลายไปจากปากต่อปาก ในสมัยนั้นเรายังไม่มีสิ่งพิมพ์หรือวีดิทัศน์ใด ๆ ฉันได้รับเชิญให้ไปประเทศสิงคโปร์ ประเทศไทย อินโดนีเซียและอื่น ๆ ก่อนที่เราจะยื่นมือออกไปต่างประเทศสู่อเมริกา กลุ่มของเรา โดยหลักจะรวมกันอยู่ที่เอเชียอาคเนย์ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีความสัมพันธ์กับฟอร์โมซาและชาวจีน ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศไทย ซึ่งเราเพิ่งได้เอ่ยถึงนั้น สมาชิกของกลุ่มของเราโดยหลักจะจำกัดอยู่ในกลุ่มชาวจีนที่อาศัยอยู่ที่นั่น คนเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นผู้สืบเชื้อสายชาวจีนและสามารถพูดภาษาจีนกลางหรือจีนอื่น ๆ เช่น แต้จิ๋วหรือฮกเกี้ยน รวมทั้งภาษาไทยสายหนึ่งยังคล้ายกับภาษาจีนสายหนึ่ง มีคนพบว่าภาษาไทยทางเหนือนั้นคือภาษาเดียวกันซึ่งพูดกันในบริเวณหนึ่งในแคว้นยูนานของประเทศจีน ชน 2 ชาตินี้สามารถคุยกันเข้าใจได้ นี่พิสูจน์ว่า เราชาวจีนครั้งหนึ่งเคยอาศัยในประเทศไทย ชาวสิงคโปร์ก็พูดภาษาจีนได้เช่นเดียวกัน

แรกที่ฉันมาฟอร์โมซา ภาษาจีนเพียงคำเดียวที่ฉันพูดได้คือ “แม่เธอสบายดีหรือ?” (นี่คือความผิดพลาดที่ชาวต่างประเทศมักจะทำเมื่อเขากล่าวคำสำหรับอักษรจีนว่า “ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” โดยกล่าวในลำดับที่ผิดไป) (เสียงหัวเราะ) ฉันไม่ค่อยเข้าใจภาษาเท่าใดนัก เมื่อผู้บำเพ็ญอาวุโสตามวัดสวดนาม “อมิตาภพุทธ” มันก็ฟังดูคล้าย “อมิเต้าหู้” ฉันยังประหลาดใจที่ได้ยินพวกเขาทวนคำว่า “เต้าหู” อยู่ได้ทั้งวัน

อย่างไรก็ตาม ฉันพูดภาษานี้ได้อย่างรวดเร็วเพราะว่าฉันชอบชาวจีนเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาปฏิบัติต่อฉันอย่างดียิ่ง ราวกับเป็นน้องสาวคนหนึ่ง บางทีอาจเป็นเพราะบุญสัมพันธ์ที่ได้มีต่อกันในชาติที่แล้วมา เราสามารถเข้าใจกันได้อย่างถ่องแท้ อย่างไรก็ตาม บางครั้งลิ้นฉันก็พันกันเพราะว่าไม่ได้พูดภาษาจีนมาเป็นเวลานาน ฉันพูดภาษาอังกฤษได้ลื่นไหลที่สุด ฉันกระทั่งมีปัญหาในการพูดภาษาดั้งเดิมของฉันคือภาษาเอาหลัก นานมาแล้วที่ฉันใช้ภาษาเอาหลักจนฉันเกือบจะลืมมันไปแล้ว
 

 การพัฒนาในเอเชียอาคเนย์


เพราะกลุ่มของเราเติบโตต่อไป ภายหลังศูนย์ถูกตั้งขึ้นทั่วฟอร์โมซา และผู้คนอาสาเป็นผู้ประสานงาน ในวิธีนี้ เราตั้งหลักมากมาย และขยายไปประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะในเอเชียอาคเนย์ ในเมื่อท่านประธานขอให้ฉันพูดเกี่ยวกับเอเชียอาคเนย์อย่างเดียว ฉันจะทำเช่นนั้นและเพิกเฉยพื้นที่อื่น ๆ เรามีจุดติดต่อมากมายในเอเชียอาคเนย์และประเทศเอเชียอื่น ๆ

เพราะผู้คนเรียนรู้เกี่ยวกับเรามากขึ้นทุกที และในขณะที่ศูนย์ติดต่อของเรามีจำนวนมากขึ้น ผู้คนจำนวนมากที่เพิ่มพูนขอพบฉันเป็นการส่วนตัว เพราะฉันไม่สามารถอยู่ในทางกายทุกหนทุกแห่ง เราจึงเริ่มผลิตวีดิทัศน์และโสตทัศน์ ดังนั้นเราจึงสามารถไปถึงผู้คนมากขึ้น จากนั้น เราก็พิมพ์หนังสือตัวอย่างให้คนที่มาหาฉันไม่ได้ ต่อมา เราก็ออกหนังสือธรรมสาร นั่นคือวิธีที่กลุ่มของเราพัฒนาในวิธีธรรมชาติ ศูนย์ติดต่อของเราไม่หรูหราหรือใหญ่โตด้วยวิถีทางใด ส่วนใหญ่มันตั้งอยู่ในอาคารธรรมดา บางแห่งเป็นโครงสร้างปะติดปะต่อที่สร้างด้วยสังกะสีบาง ๆ อย่างน้อยที่สุดก็ดูไม่สง่าผ่าเผยสักนิด เราไม่สร้าง และให้ความคิดเล็กน้อยที่จะสร้างวัดใหญ่โต มหึมา อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้บำเพ็ญของเราพบว่า ศูนย์ติดต่อดูมอซอเกินไป พวกเขาก็พยายามทำสิ่งที่พวกเขาสามารถทำให้มันดูดีขึ้น เราชินกับอยู่เต็นท์ ฉันยังมีเต็นท์ตั้งอยู่บนดอยหยังหมิงซัน พอฉันกลับในฟอร์โมซา และถ้าฉันหาเวลาได้ ฉันจะไปอยู่ที่นั่นพักหนึ่ง เราไม่มีแผนจะสร้างอะไรให้ตนเอง อย่างไรก็ตาม บางครั้ง มันถูกตั้งขึ้นโดยธรรมชาติ

     

อาจารย์เคยใช้ชีวิตอยู่ในเต๊นท์

ประธาน: กระผมขอเรียนถามท่านอาจารย์เนื่องจากในมือของเรามีข้อมูลที่ดีที่ทางสมาคมปฏิบัติธรรมได้ให้ไว้ขอให้ทุกท่านฟังท่านอาจารย์อธิบายไปด้วย ในขณะเดียวกันก็ให้เปิดดูหน้าที่ 20 ที่ได้มีการกล่าวถึงประเทศมาเลเซีย ชาวมลายูส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม แล้วท่านสามารถจัดกิจกรรมการบรรยายธรรมที่นั่นได้อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่กระทำไม่ได้ ขอเชิญ!

ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่: ชาวจีนส่วนใหญ่ค่อนข้างยึดถือตามประเพณีโดยธรรมชาติ ธรรมวิถีกวนอิมจะไม่แยกความแตกต่างระหว่างแต่ละศาสนา แต่ก็ไม่สั่งให้ผู้คนถอดผ้าคลุมหรือบูชาตาม เราได้อธิบายเรียบร้อยแล้วว่า ธรรมวิถีกวนอิมเป็นวิถีซึ่งนำเราสู่ธรรมชาติแห่งพระเจ้าของเราและอาณาจักรแห่งสวรรค์ภายใน มันไม่สำคัญว่า เราถือศาสนาใด ๆ

   

เพื่อนบำเพ็ญของเราจากศาสนาที่แตกต่างกันต่างก็มาทำสมาธิด้วยกันในระหว่างที่แต่งชุดที่แตกต่างกัน ชาวอิสลามก็สวมเสื้อผ้าแบบอิสลามของพวกเขา นักบวชในพุทธศาสนา บางครั้งก็สวมจีวร นักบวชจากแต่ละประเทศ กระทั่งจะสวมชุดที่แตกต่างกัน บางท่านมาจากธรรมสถานของหินยาน ในขณะที่บางท่านมาจากธรรมสถานของมหายาน บางท่านมาจากประเทศจีน และบางท่านมาจากเกาหลี พวกท่านต่างก็สวมชุดที่แตกต่างกัน และเคยชินกับลักษณะการแต่งตัวที่แตกต่างกันมากมายหลายประเทศ พวกเขามารวมตัวกันและทำสมาธิโดยปราศจากการถกเถียงกันในเรื่องของศาสนาใด ๆ

เมื่อพวกเขาบรรลุขั้นตระหนักในตนเอง พวกเขาจะกลายเป็นชาวอิสลาม ชาวพุทธ หรือชาวคริสตังที่ดีกว่า พวกเขาจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความสุขจนกระทั่งลักษณะทางประเพณีของพวกเขาไม่มีผลกระทบต่อพวกเรา แน่นอน ดังที่ท่านประธานทราบ ประเทศมาเลเซียและประเทศอิสลามอื่น ๆ บางประเทศ ด้วยที่เคร่งครัดกว่าไทเป จึงออกกฎเกณฑ์บางอย่างควบคุมประชาชน แต่รัฐบาลของเขาไม่รบกวนเรื่องของเรา พวกเขาค่อนข้างอิสระ และไม่เป็นอย่างไร หากชาวอิสลามเข้าร่วมกันเราด้วยแรงดลใจของพวกเขาเอง เราไม่เคยไปเคาะประตูบ้านของพวกเขาหรือทำการอื่นใด พวกเขามาด้วยตนเอง ณ เวลานั้นเราเขียนหมายเหตุบนใบปลิวของเราไว้ว่า “ไม่สนับสนุนให้ชาวอิสลามเข้าฟัง” (เสียงหัวเราะ)
 

หน้า 2 3 4