ประธาน: ประเทศอินโดนีเซีย
เราทราบว่า อินโดนีเซียขับไล่ชาวจีน
ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่:
เมื่อก่อนถูกต้อง! |
|||||||||||||||
|
|||||||||||||||
ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่:
ฉันปราศรัยเป็นภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ขอบคุณที่เตือนฉัน
ฉันลืมเรื่องที่ท่านได้เอ่ยถึงเมื่อกี้นี้ไปแล้วโดยสิ้นเชิง
มันรู้สึกเหมือนเรื่องที่ผ่านพ้นมายาวนานแล้ว (ท่านอาจารย์หัวเราะ) ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่: ชาวจีนที่ไปอาศัยอยู่ในอินโดนีเซียสมัยนั้นอยู่ในสภาพเดือดร้อน ฉันร้องไห้เมื่อได้ยินเรื่องน่าเศร้าของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ทำดีก็ได้ดี เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่ถูกจัดแจงก็จะเปิดเผยออกมา เธอจะเห็นได้ว่า ชาวจีนที่นั่นอยู่สบายขึ้นมากทุกวันนี้ พระเจ้าก็จัดแจงอะไรของพระองค์อยู่ เมื่อผู้คนเข้าใจเราผิดหรือทำร้ายเรา เราควรจะเรียนรู้จากตัวอย่างชาวจีนซึ่งอดทนและยินยอมต่อการถูกกระทำอย่างอัปยศอดสู แล้วเราจะตระหนักว่า พระเจ้าดูแลเราอย่างดี ไม่เร็วก็ช้าพระองค์จะแก้ไขให้กับเรา ในสมัยก่อนนั้น ชาวจีนไม่ได้รับอนุญาตให้เรียนภาษาจีน พวกเขากระทั่งไม่ได้รับให้พูดภาษาแม่ของเขาในที่สาธารณชน พวกเขาจะต้องพูดภาษาอังกฤษหรือภาษาอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม
พวกเขาสามารถพูดภาษาจีนได้ที่บ้าน ครั้งหนึ่ง
เมื่อผู้บำเพ็ญซึ่งมีฐานะดีคนหนึ่งของเราเชื้อเชิญฉันไปที่บ้านของเขา
พวกเราทุกคนต่างก็เบียดเข้าไปอยู่ในบ้านของเขา บ้านนั้นใหญ่โตและมีหลายห้อง
เราอยู่ในห้องหนึ่งซึ่งใหญ่เท่าห้องนี้ ที่นั่นเราพูดภาษาจีนได้
แต่เวลาปราศรัยในที่สาธารณชน ฉันจะพูดเป็นภาษาอังกฤษ
ฉันไม่สามารถฝืนกฎเกณฑ์ได้
เนื่องด้วยฉันได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศอินโดนีเซีย ฉันก็ต้องให้ความร่วมมือ
และทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างเรียบร้อย ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่: นั่นคือหลังจากการปราศรัยจบลง ทางราชวงศ์ทราบเรื่องนี้และได้ติดต่อกับเพื่อนบำเพ็ญของเราในเรื่องนี้ ฉันไม่ทราบเรื่องราวเบื้องหลังมากนัก ฉันมาเนื่องด้วยได้รับคำเชิญจากพระองค์ท่าน ในกรณีส่วนใหญ่ เพื่อนบำเพ็ญจะจัดแจงสิ่งต่าง ๆ ให้กับฉัน เมื่อท่านแจ้งให้ฉันทราบเกี่ยวกับหนังสือเชิญซึ่งท่านรับในนามของฉัน ฉันก็จะตอบรับเมื่อเวลาเหมาะสม ดูเหมือนว่า ณ เวลานั้นประเทศไทยเพิ่งประสบความวุ่นวายปั่นป่วนอะไรบางอย่าง แล้วเราได้บริจาคของช่วยเหลือบรรเทาบางอย่าง
|
|||||||||||||||
|
|||||||||||||||
|
ประธาน: ส่วนที่เป็นของประเทศไทยมีมาก จากหลักฐานทางนี้ท่านเคยได้จัดกิจกรรมอาหารมังสวิรัติระดับสากลในเชียงใหม่ที่ประเทศไทยครั้งหนึ่ง ท่านมีศูนย์ปฏิบัติธรรมกี่แห่งในประเทศไทย ขอให้ท่านช่วยแนะนำด้วย ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่: คือ เรามีหลายศูนย์ เชียงใหม่มีศูนย์ปฏิบัติธรรม ประธาน: ที่เชียงราย เชียงใหม่ กรุงเทพ หรือที่อื่น ๆ มีบ้างไหม? ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่: ใช่ ๆ เรามีศูนย์ที่หาดใหญ่ ขอนแก่น และกรุงเทพ แต่ฉันจำชื่อไม่ค่อยได้ เพื่อนบำเพ็ญของเราจะจำได้ดีกว่าฉัน ทุกวันนี้ฉันได้แต่เดินทางไปญี่ปุ่นหรือไปไต้หวัน บางครั้งฉันก็ยุ่งมาก ต้องเก็บกระเป๋าของฉันเอง การเดินทางตัวคนเดียว บางทีก็เหนื่อยมาก แต่หากฉันเดินทางกับคนกลุ่มมาก ฉันจะดึงดูดความสนใจมากเกินไป ฉันพอใจจะเดินทางอย่างเงียบ ๆ แต่ฉันก็มีธุระที่จะต้องจัดแจงมากมายเหลือเกิน จนบางครั้งฉันกลายเป็นขี้หลงขี้ลืม |
|
|||||||||||||
อย่างไรก็ตาม ฉันทราบว่าเรามีศูนย์ที่ขอนแก่น หาดใหญ่ เชียงใหม่ และกรุงเทพ ศูนย์อื่น ๆ ฉันจำไม่ได้ เรามีเพื่อนบำเพ็ญกลุ่มใหญ่ในประเทศไทย บางคนพูดภาษาไทย บางคนก็พูดภาษาจีน การแปลก็ไม่เลว แรกเริ่มที่ฉันไปประเทศไทย ชาวจีนบางคนพูดภาษาของตนเองไม่ได้ แต่พวกเขาก็เรียนรู้หลังจากที่ฟังจากเทปวีดิทัศน์ของฉัน ฉันยังตลกเล่นกับพวกเขาว่าจะเก็บค่าเรียน! คนที่นั่นดีมากและใจบุญ พวกเขาให้ความเคารพกับผู้บำเพ็ญทางจิตวิญญาณสูงยิ่ง ครั้นพวกเขาทราบว่า ท่านเป็นผู้บำเพ็ญทางจิตวิญญาณ พวกเขาจะคุกเข่าลงหน้าท่านและมอบดอกไม้ให้กับท่าน พวกเขาเป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนยิ่งนัก |
|||||||||||||||
|
|||||||||||||||
ประธาน: วิธีการที่สำคัญที่สุดคือทำให้พวกเขาเข้าใจคืออะไร? จุดที่สำคัญคืออะไร?
ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่: ฉันเพียงแต่พูดจากับพวกเขาอย่างสบาย ๆ เป็นกันเอง
(เสียงหัวเราะ) ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่: พวกเขาค่อนข้างเฉลียวฉลาด! (เสียงหัวเราะ) ประธาน: ครับ เราจะขอสอบถามเกี่ยวกับประเทศฟิลิปปินส์บ้าง เดือนเมษายน 2534 ท่านเคยได้ไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวเอาหลัก เหตุใดท่านจึงเปลี่ยนชื่อเวียตนามเป็นเอาหลัก นี่เป็นคำถามที่ 1 ส่วนคำถามที่ 2 ที่ฟิลิปปินส์ พวกเขาเคยมอบรางวัลกุญแจเมืองแด่ท่าน โดยให้ท่านเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์แห่งกรุงมนิลา เหตุใดจึงทำเช่นนี้?
ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่: ฉันก็ไม่ทราบ พวกเขาทำเช่นนั้นในทันทีที่ฉันมาถึง
เพราะมีใครบางคนบอกพวกเขาว่าฉันเป็นใครและมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ใด
ผู้ว่าประจำมนิลาเชื้อเชิญพวกเราและมอบกุญแจให้กับเรา ฉันคิดว่า
กุญแจนั้นสวยงามและก็เก็บไว้เป็นที่ระลึก แต่มันไม่สามารถเปิดประตูใดๆ ได้
(เสียงหัวเราะ) ฉันรู้สึกดียิ่งนักที่ได้รับกุญแจเป็นครั้งแรกในชีวิตของฉัน
สมัยนั้นฉันไม่มีบ้าน ฉันอาศัยอยู่ในเต็นท์ กระนั้นฉันก็มีกุญแจ
ฉันห่อเก็บไว้อย่างดีในกระเป๋า ภายหลังฉันก็เลิกเห่อ
เพราะได้รับกุญแจอีกมากมาย ฉันนำมาวางไว้ข้าง ๆ กัน เพียงเพื่อเอาไว้ดู
ฉันได้รับกุญแจอีกหลายอันในสหรัฐอเมริกา ฉันให้ท่านดอกหนึ่งได้
ถ้าท่านต้องการ ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่: เรานำมาแบ่งกันก็ได้ ประธาน: ดี ๆ ถ้าเช่นนั้นบัดนี้เราดูต่ออีก เชิญคุยมากหน่อย ท่านมาจากเอาหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราเติมลงไปก็ต้องแนะนำส่วนของเอาหลัก เชิญ! ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่: ในสมัยนั้นฉันกำลังเจรจากับรัฐบาลฟิลิปปินส์ในเรื่องของผู้ลี้ภัยเพื่อขอความช่วยเหลือและให้ที่ลี้ภัย สุดท้ายเขาอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยจำนวน 5,000 คนซึ่งยังคงอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ อยู่ต่อได้ คนพื้นเมืองมีจิตเมตตาและใจดีมาก ถึงแม้ว่าประเทศของเขาจะยากจน ดังนั้นฉันจึงไปเยี่ยมเยียนพวกเขา 2-3 วันต่อมาเพื่อแสดงความขอบคุณของเรา
เอาหลัก เป็นคำเรียกสมัยโบราณสำหรับประเทศเวียตนาม ซึ่งมีความหมายว่า
ความสุข ฉันใช้ชื่อนี้ เพราะรู้สึกว่า มันจะนำโชคดีมาสู่ประชาชน
ฉันชอบชื่อที่ฟังดูดี ด้วยที่เป็นนักออกแบบฉันจึงชอบของสวยงามรวมถึงชื่อที่งดงาม นั่นคือสาเหตุที่ฉันเลือกใช้ชื่อว่า ฟอร์โมซา แทนคำว่า
ไต้หวัน ท่านจะเห็นได้ว่าเราใช้ชื่อนี้ในเอกสาร ข้อมูลที่อยู่ในมือท่าน
เราเรียกเกาะนี้ว่า"ฟอร์โมซา" ไม่ใช่ "ไต้หวัน" ถึงแม้ว่าบางครั้งเราก็ลืมไป |
|||||||||||||||
|
|
||||||||||||||
|