ในขณะที่อากาศหนาวได้ย่างเข้ามาในเดือนพฤศจิกายน
2547
ผู้ประทับจิตกรุงเทพฯ ได้รับข่าวเรื่องสภาพอันลำบากที่เรือนจำคลองไผ่
รวมทั้งเรือนจำพิเศษในอำเภอสี่คิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
พี่น้องของเราจึงได้เขียนจดหมายไปยังหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง
2
แห่ง เพื่อขออนุญาตเข้าเยี่ยมผู้ต้องขัง
ขอจัดอาหารมังสวิรัติ และจัดการบรรยายทางวีดิทัศน์
แนะนำการนั่งสมาธิและแจกเสื้อผ้ากันหนาว รวมทั้งสิ่งอื่น ๆ
ที่จำเป็นสำหรับผู้ต้องขังวัยชรา
หลังจากได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ในวันที่
28
พฤศจิกายน 2548
เพื่อนประทับจิตได้เข้าเยี่ยมเรือนจำพิเศษคลองไผ่
เพื่อให้ความช่วยเหลือและปลอบใจผู้ต้องขังหญิงชราประมาณ
100 คน
ส่วนใหญ่ไม่มีญาติมิตร
กิจกรรมได้เริ่มขึ้นโดยกล่าวทักทายและอ่านคติพจน์ของท่านอาจารย์
จากนั้นก็มีการแจกห่อของใช้ที่จำเป็นมีเสื้อหนาว ถุงเท้า แปรงสีฟัน ยาสีฟัน
ธัญญาหาร บัตรอวยพรที่มีพิมพ์คติพจน์ของท่านอาจารย์
ใบปลิวแนะนำอาจารย์รวมทั้งวิถีกวนอิม
จากนั้นก็มีการฉายวีดิทัศน์แนะนำท่านอนุตราจารย์ชิงไห่
และตามมาด้วยการบรรยายเรื่อง
“ความหมายที่แท้จริงของเสรีภาพ”
หลังจากนั้น มีผู้ต้องขังคนหนึ่ง เขารู้สึกเหมือนว่า
อาจารย์กำลังพูดอยู่กับเธอ และชี้ไปที่ใจของเธอในระหว่างการฉายวีดิทัศน์
ผู้ประทับจิตยังได้ให้หนังสือของอาจารย์และดีวีดีการบรรยาย
รวมทั้งหนังสือตัวอย่างของอาจารย์พิมพ์หลายภาษา ให้กับห้องสมุดในเรือนจำ
ตามกฎของเรือนจำ จะต้องมีการขออนุญาตก่อน
ถึงจะสอนวิถีสะดวกให้กับผู้ต้องขังที่สนใจได้ ดังนั้น
ผู้ประทับจิตก็ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ
ให้ขออนุญาตและกำหนดที่จะสอนวิถีสะดวกในวันอื่น
กิจกรรมได้สิ้นสุดลงด้วยอาหารเที่ยงมังสวิรัติอันเอร็ดอร่อย
ซึ่งจัดเตรียมโดยพี่น้องของเราด้วยความรักและห่วงใย
พวกผู้ต้องขังได้กล่าวชื่นชมเป็นอย่างมาก
ต่อมาในวันที่
2
ธันวาคม 2548
ผู้ประทับจิตกรุงเทพฯ ได้ส่งห่อเสื้อกันหนาวและของใช้จำเป็นอื่น ๆ
171
ห่อไปยังทัณฑสถานคลองไผ่
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถนำไปให้กับผู้ต้องขังชายโดยตรง
เนื่องจากอาทิตย์นั้นทั้งอาทิตย์
มีกิจกรรมวันพบญาติหนังสือและดีวีดีของอาจารย์ก็ถูกส่งไปที่ห้องสมุดของเรือนจำด้วย